ร้อนระอุอีก! รองเลขาฯสพฉ. ร้องถูกลดบทบาท เตรียมยื่นหนังสือบอร์ดขอทราบสาเหตุ

ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลยังไม่ทันจบ ล่าสุดประเด็นร้อนระอุของบุคลากรทางการแพทย์ยังมีเรื่อยๆ ครั้งนี้ไปที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.) โดยในแวดวงการแพทย์ฉุกเฉิน และกู้ชีพกู้ภัย ต่างมีการแชร์ข้อความทางไลน์ ของผู้บริหารระดับสูง คือ นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน(สพฉ.)  ได้บอกกล่าวแก่เครือข่ายกู้ชีพกู้ภัย ใจความว่า

“ ผมขออนุญาตแจ้งข่าวครับว่าตั้งแต่วันที่1 ต.คที่ผ่านมา ผมถูกเลขาธิการสั่งลดบทบาทอำนาจหน้าที่ของผมไม่ให้รับผิดชอบสำนักใดเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้รับผิดชอบ 5 สำนัก รวมทั้งสำนักประสานเครือข่ายด้วย ทำให้ผมไม่สามารถออกไปขับเคลื่อนงานพื้นที่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อปท มูลนิธิ สำนักระบบสสจ รพ ภาคประชาชน และเครือข่ายองค์องค์ภาครัฐ งานภายใน สพฉ ก็ไม่ได้ดู งานประชาสัมพันธ์ก็ไม่ให้ดู ผมคงไม่ได้ออกไปพบกับพี่ๆน้องๆแล้ว จึงเรียนมาให้ทราบครับ ขอบคุณสำหรับพี่ๆน้องๆทุกคนที่ได้ร่วมงานกันมาครับ” ลงชื่อ หมอไพโรจน์

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ผู้สื่อข่าว”มติชน” ได้โทรศัพท์ขอสัมภาษณ์ไปยัง นพ.ไพโรจน์  กล่าวว่า  เป็นข้อความของตนจริง แต่เป็นเพียงการแจ้งให้เครือข่ายที่ร่วมกันทำงานมาทราบว่า จะไม่ได้ทำงานแล้ว ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดาย เพราะงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะการร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน อย่างกรณีการย้าย 1669 ไปยังท้องถิ่นให้ดำเนินการ ได้ผ่านคณะกรรมการกระจายอำนาจเห็นชอบว่าทำได้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ก็เห็นชอบว่า เป็นภารกิจของท้องถิ่นในการทำงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งตนทำมาตั้งแต่ปี 2557 จากเป็นศูนย์ฯ  ขณะนี้เพิ่มเป็น 7 แห่งในองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) และยังมีความร่วมมือต่างๆ จนเกิดภาคีเครือข่ายมากมาย มีองค์กรกู้ชีพกู้ภัย 437 องค์กร แต่เมื่อตนถูกลดบทบาทลง ก็ไม่แน่ใจว่าจะขับเคลื่อนอย่างไร ทางท้องถิ่นก็สงสัยกัน

“ที่สำคัญผมไม่รู้ว่าผมผิดอะไร ซึ่งได้ทำเรื่องขอเหตุผลการลดบทบาท ลดหน้าที่ ขณะนี้เป็นรองเลขาฯ แต่ไม่มีภารกิจหลักอะไรเลย แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ผมกำลังจะร่างขอเหตุผลไปยังคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือบอร์ดสพฉ.ด้วย เพราะเป็นสิทธิผมที่จะถาม และจะได้ทราบด้วยว่าผิดอะไร เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงได้” นพ.ไพโรจน์กล่าว

Advertisement

ผุ้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่านพ.ไพโรจน์ เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อาจทำให้ต้องลดบทบาท เนื่องจากการประสานกับเครือข่ายฯอาจทำให้ถูกมองเรื่องของฐานเสียง นพ.ไพโรจน์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน จริงๆ นโยบายการแพทย์ฉุกเฉิน ทุกพรรคก็ให้ความสำคัญหมด เพียงแต่ตนไปเสนอนโยบาย พูดคุยกัน และทางพรรคก็เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ และชวนเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งตนว่าก็ไม่เสียหายอะไร และทางพรรคก็ไม่เห็นเคยติดต่ออะไรตนมาเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อนพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการ สพฉ. แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากติดภารกิจต่างประเทศ

 

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image