ชมรมผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้กำลังใจปลัดยืนหยัดคำสั่งเดิม ย้ำไม่ได้ทำเพื่อ “หมอเกรียงศักดิ์” แต่ต้องการความเป็นธรรมให้ระบบสาธารณสุข
หลังจากนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ประกาศพร้อมย้ายกลับผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขกลับ มีรพ.ขอนแก่น รพ.เลย และกาฬสินธุ์ ส่วนตำแหน่งไหนขาดพร้อมคัดสรรและโยกย้ายเป็นคำสั่งใหม่อีกฉบับ ซึ่งทางชมรมโรงพยาบาลศูนย์(รพศ.)โรงพยาบาลทั่วไป(รพท.) พร้อมรับและรอคำสั่งดังกล่าว ขณะที่ชมรมแพทย์ชนบทต่างมีการโพสต์บนเพจเฟซบุ๊กว่า จะมีเครือข่ายผู้ป่วยไปให้กำลังใจปลัดสธ.ยืนยันไม่โยกย้ายในวันที่ 9 ตุลาคมที่กระทรวงสาธารณสุข
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนพล ดอกแก้ว ประธานชมรมเพื่อนโรคไต นางสายชล ศรทัตต์ ประธานชมรมผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 17 องค์กรแห่งประเทศไทย พร้อมเครือข่ายภาคประชาชน 7 คน ได้มีการนัดหมายเข้ามาหารือและให้กำลังใจ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ที่นัดพบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื่องจากเป็นห้องทำงานชั่วคราวของ นพ.สุขุม เนื่องจากห้องทำงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ยังไม่เรียบร้อย แต่ปรากฎว่า นพ.สุขุม ไม่สามารถมาพบได้ เนื่องจากติดภารกิจจึงไม่ได้เข้าพบ
นายธนพล กล่าวว่า ตั้งใจมาพบปลัดกระทรวงเพื่อให้กำลังใจเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายในรอบนี้ เพราะเห็นกระบวนการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองจนเกรงว่าอาจจะมีผลกระทบกับการบริการสุขภาพประชาชนหลายอย่าง ขอให้ปลัดกระทรวงสู้เพื่อความถูกต้อง มั่นคง มั่นใจว่าสิ่งที่ปลัดแต่งตั้งมานั้นเพราะเห็นว่าดีแล้ว เหมาะสมแล้ว ส่วนที่มีการชี้แจงเหตุผลที่ต้องโยกกลับเพราะไม่ผ่านกระบวนการสรรหาตามนโยบายตั้งแต่แรกนั้น ส่วนตัวยังไม่เห็นคำชี้แจงชัดเจน เราไม่ได้เป็นพวกใครหรือเข้าข้างใคร แต่ยึดถือความถูกต้อง เพราะเมื่อมีการแต่งตั้งแล้วทำไมไม่ให้ทำงานก่อน ถ้าไม่มีผลงานค่อยย้ายก็ได้
“แต่ทำแบบนี้รัฐมนตรี เรามองว่าเป็นการคุกคาม ข่มขู่ ถ้าไม่บีบปลัดกระทรวง ก็คงไม่มีการทำหนังสือแต่งตั้งกลับ และหากมีการใช้โอกาสนี้ในการโยกย้ายหรือปลดปลัดกระทรวงออกจากตำแหน่งหลังทำงานได้ไม่กี่วัน จะยิ่งชัดเจนมากว่าเป็นการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์ และจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายในระบบสาธารณสุข มีผลถึงการเลือกตั้งในอนาคตแน่นอน” นายธนพลกล่าว
นายธนพล กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวปลัดกระทรวง ให้ปลัดกระทรวงได้ทำงาน และเชื่อมั่นใจตัวแพทย์ที่ปลัดแต่งตั้งเป็นผอ.รพ.ต่างๆ ว่าเขาไปบริหารรพ.นั้นถือว่ามีการคัดกรองดีที่สุดแล้ว การโยกย้ายกลับอย่างน้อยต้องให้เขาได้ทำงานก่อนอย่างน้อย 1 ปี ถ้าเห็นผลการทำงานไม่ผ่านก็ย้ายกลับได้ ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทางกระทรวงประกาศให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการตามคำสั่งฉบับเดิมไม่มีการแก้ไข โยกกลับเพราะถ้าโยกกลับแบบนี้มันไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรมกับคนทำงาน พวกเราในฐานะประชาชน คนไข้ พร้อมที่จะออกมารวมตัวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ ปลัด และหมอที่ถูกแต่งตั้งเป็นผู้บริหาร ยืนยันว่าภาคไม่ได้ทำเพื่อพวกพ้อง แต่ทำเพื่อความถูกต้อง เป็นธรรม เรื่องธรรมาภิบาลซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนตัวรู้จักนพ.เกรียงศักดิ์ แต่ไม่สนิท
เมื่อถามว่ามีหลายคนที่มองว่าคำสั่งย้ายฉบับแรกก็ไม่มีธรรมาภิบาล นายธนพล กล่าวว่า หากตนเป็นข้าราชการ ทำงานในพื้นที่นี้ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าถูกย้ายไปที่ใหม่ก็จะพยายามทำให้ที่ใหม่ดีๆ ขึ้นไปอีก
ด้าน นางสายชล ศรทัตต์ ประธานชมรมผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 17 องค์กรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การโยกย้ายที่ออกมาแสดงว่าต้องมีการพิจาณราอย่างรอบคอบแล้วแต่อาจจะไปสะดุดปมของใครบางคน เพราะหมอคนนี้เป็นคนที่ต่อสู้เพื่อประชาชน วันนี้ต้องยอมรับว่าหมอมี 2 ฝ่าย ตอนนี้หมอที่อยู่เบื้องหลังในกระทรวง เป็นหมอที่ไม่เห็นด้วยกับระบบหลักประกันสุขภาพ แต่ต้องยอมรับระบบนี้เกิดขึ้นได้เพราะเครือข่ายแพทย์ชนบทตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และหมอเกรียงศักดิ์เองก็เป็นหมอที่ยืนหยัดต่อสู้มาตลอด เมื่อคนที่จะทำให้ระบบยืนยาวได้ เลยมีความพยายามตัดตอน ดังนั้นถือเป็นการแทรกแซง ที่จริงถ้าปล่อยให้ทำอย่างอย่างเต็มที่อาจจะทำให้ระบบดีขึ้นก็ได้ เราก็นั่งมองอยู่เหมือนกันว่ายุทธศาสตร์สาธารณสุข 20 ปีที่ออกมามีอะไรแฝงอยู่ แล้วถ้ายังมีทีมประเภทนี้อยู่บอกได้เลยว่าโอกาสที่ประชาชนจะต้องจ่ายหน้างาน หรือร่วมจ่ายมีแน่นอน ดังนั้นตอนนี้มีหมอดีที่เราต้องปกป้อง ให้โอกาสเขาทำงาน เพราะผลงานในอดีตเขาไม่เคยทำให้รพ.มีปัญหาการเงินเลย ต้องให้โอกาสทำงาน มีเหตุผลอะไรที่จะไปย้ายเขา
“ส่วนคำสั่งแรกที่ออกมาทำให้ภาพความขัดแย้ง มีคนแต่งชุดดำประท้วงนั้นต้องเรียนว่าที่อีสานมีกลุ่มหมอที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ การที่หมอดีๆ ขึ้นมาเชื่อว่ามีการไปเหยียบตาปลาใคร ยิ่งบอกว่ามีคนแต่งดำในรพ.ก็ต้องยิ่งให้เขาพิสูจน์ฝีมือ เพื่อทำงานคุย และประณีประนอมกับคนที่แต่งดำ” นางสายชล กล่าว
