ผู้ป่วยเอชไอวี/เอดส์วอน สปส. ปลดล็อกเบิกจ่ายยาต้านไวรัส

ความคืบหน้ากรณีผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระบบประกันสังคมร้องเรียนเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ระบุว่าโรงพยาบาลเปลี่ยนวิธีการจ่ายยาต้านไวรัสเอชไอวี ทำให้ผู้ป่วยต้องไปรับยาถี่ขึ้น หรือบางที่ให้ไปหาซื้อยาเอง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยนั้น

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ฯ กล่าวว่า ตลอดปี 2561 ยาต้านไวรัสเอชไอวีในระบบประกันสังคมมีปัญหาการเบิกจ่ายมาโดยตลอด จากเดิมที่ผู้ติดเชื้อไปรับยาต้านไวรัส ตามรอบปกติ 3 เดือน หรือ 4 เดือน แต่ระยะหลังโรงพยาบาลไม่สามารถจ่ายยาต้านไวรัสให้แบบเดิม จ่ายได้เพียง 3 วัน 7 วัน 10 วัน 15 วัน เป็นต้น ทำให้ผู้ป่วยต้องลางานไปโรงพยาบาลบ่อยยิ่งขึ้น

“ปัญหานี้เกิดขึ้นมาก โดยเฉพาะโรงพยาบาล (รพ.) เอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ให้บริการเฉพาะสิทธิประกันสังคม เช่น รพ.ลาดพร้าว รพ.เกษมราษฎร์ รพ.มงกุฎวัฒนะ รพ.เปาโล เมโมเรียล รพ.สมุทรปราการ รพ.บางนา 1 เป็นต้น ที่สั่งจ่ายยาต้านไวรัสถี่ขึ้น คือ ครั้งละ 3-45 วัน หรือผู้ป่วยบางคนไม่ได้รับยา มีแต่ใบสั่งยาให้ไปหาซื้อยาเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลยืนยันว่า ไม่ใช่ความรับผิดชอบของโรงพยาบาล ดังนั้น สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้ แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ยิ่งกว่านั้น หากผู้ป่วยที่ไม่มีเงินซื้อยาจะทำอย่างไร บางคนพอที่จะไปหยิบยืมเพื่อน ถ้ายืมไม่ได้ ก็ต้องหยุดยา ซึ่งอาจส่งผลให้ดื้อยา และเสียชีวิตได้ในที่สุด” นายอภิวัฒน์ กล่าวและว่า กรณีนี้ทราบว่า ผู้มีอำนาจเซ็นเบิกจ่ายการซื้อยาไม่กล้าเซ็นอนุมัติ เพราะวงเงินสูงกว่า 50 ล้านบาท แต่กลับโยนปัญหาให้ผู้ประกันตน ทั้งที่จ่ายเงินสมทบทุกเดือน

Advertisement

นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า เรียกร้องให้ สปส.แก้ไขระเบียบที่เป็นอุปสรรค โดยเจรจากับกรมบัญชีกลางเพื่อปลดล็อก เนื่องจากยามีความสำคัญต่อชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งถือเป็นสิทธิในการเข้าถึงการรักษา หากไม่ปลดล็อกแม้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะมียาให้ แต่ส่งเข้าระบบไม่ได้ เพราะขั้นตอนที่ยุ่งยากของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ทั้งนี้ ล่าสุดได้ทำหนังสือขอเข้าพบนายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการ สปส. แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image