สปส.เร่งปลดล็อกเบิกจ่าย ‘ยาต้านไวรัส’ ให้ผู้ประกันตนติดเชื้อเอชไอวี

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ รักษาการเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงกรณีผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในเครือข่ายประกันสังคมเรียกร้องให้ สปส.ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการและการเบิกจ่ายยาต้านไวรัส ให้แก่สถานพยาบาลในเครือข่ายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยในระบบประกันสังคมว่า สปส.ได้ดำเนินการบริหารจัดการยาต้านไวรัสให้แก่สถานพยาบาลในการดูแลผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ตั้งแต่ปี 2547 โดยมีการจ่ายยาให้ผู้ประกันตนตามความเห็นของแพทย์อย่างต่อเนื่องตามรอบของการรับยาของผู้ประกันตน

“สำหรับประเด็นปัญหาความล่าช้าของการจัดซื้อยาทำให้ผู้ประกันตนต้องเข้าไปรับยาบ่อยขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2561 เนื่องจาก สปส.ต้องดำเนินการจัดซื้อยาตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ซึ่งมีกระบวนการจัดซื้อที่ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สปส.ได้เร่งดำเนินการจัดซื้อยาต้านไวรัสเอชไอวีเพิ่ม เพื่อชดเชยที่ขาดในคลังยาของสถานพยาบาล และให้เพียงพอต่อปริมาณความต้องการใช้ยาของผู้ประกันตน โดยปรับแผนการจัดซื้อจากเดิม 3 เดือน เป็น 6 เดือน และจะพิจารณาปรับแผนการจัดซื้อให้เป็นแผนรายปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ สำหรับกรณีสถานพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร ที่ปรากฏในข่าวไม่มียาให้แก่ผู้ประกันตน สปส.ได้เร่งประสานกับสถานพยาบาลแต่ละแห่งเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกันตนแล้ว” นายอนันต์ชัยกล่าว

นายอนันต์ชัยกล่าวอีกว่า สปส.มีความมุ่งมั่นในระบบจัดการบริหารงานด้านการแพทย์ให้ผู้ประกันตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมและจัดหายาเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน ตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างเพียงพอต่อความต้องการจนสิ้นสุดการรักษา โดยไม่จำกัดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายและจำนวนครั้งที่เข้ารับการรักษา โดยสถานพยาบาลจะไม่เก็บค่าบริการทางการแพทย์จากผู้ประกันตน ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในการดำเนินงานของ สปส.ที่พร้อมดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน เพื่อให้ได้รับบริการที่ดี และได้รับประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image