‘แพทยสภา’ ชี้หมอทำงานเกินกรอบเวลาเพิ่มเท่าตัว จี้ทุกฝ่ายแก้ทั้งระบบ

กรณี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดินหน้านโยบายพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากรทางการแพทย์เพื่อการบริการที่ดีต่อประชาชน โดยหนึ่งในนโยบายมีเรื่องการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรสาธารณสุข โดยเฉพาะกรณีที่แพทย์ และพยาบาลมีภาระงานล้นมือ ซึ่งเตรียมดำเนินการจัดทำกรอบเวลาในการปฏิบัติงานให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพนั้น

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า กรอบเวลาของแพทย์ภาครัฐควรจะยึดตามประกาศแพทยสภา 104/2560 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2560 โดยกำหนดข้อ สำคัญคือของ แพทย์เพิ่มพูนทักษะ โดยเฉพาะชั่วโมงการทำงานของแพทย์นอกเวลาราชการ (วันหยุดราชการและหลังเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป) ไม่ควรเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือไม่ควรอยู่เวรเกิน 5 เวร ซึ่งปกติแพทย์ปฏิบัติหน้าที่โดยทั่วไปตามวันเวลาราชการ วันละ 8 ชั่วโมง หรือสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง เท่ากับว่าแพทย์จะทำงานเพิ่มอีกเท่าตัว แต่ในทางปฏิบัติจริงแพทย์ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่านั้น โดยล่าสุด ข้อมูลสำรวจ ของแพทย์ที่จัดทำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำการสำรวจแพทย์จำนวน 183 คน ข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ่ทำงานนอกเวลาเกินสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง (ตามประกาศแพทยสภา) จำนวน 147 คน (80%) ซึ่งถือว่ามีชั่วโมงทำงานมากกว่ากรอบเวลาการทำงานตามประกาศแพทยสภากำหนดไว้

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร กล่าวว่า การทำงานมากกว่ากรอบเวลาที่กำหนดไว้ เหตุผลหลักเนื่องจากปัญหาขาดแคลนแพทย์ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลนั้นๆ แต่เนื่องด้วยจริยธรรมทางการแพทย์จึงไม่อาจละทิ้งผู้ป่วยได้ โดยที่แพทย์ยอมทำงานนอกเวลามากกว่าที่กำหนดไว้ ดังนั้นภาพรวมของ สธ. ควรต้องมีการแก้ไขปัญหานี้ เช่น ปรับอัตรากำลังคนให้เพียงพอ โดยอาจมีการจ้างทำงานจากภาคเอกชนหรือผู้เกษียณอายุแล้วมาช่วยปฏิบัติงานในสถานที่ขาดแคลน และเมื่อเพิ่มจำนวนแพทย์จำนวนต้องคิดถึงจำนวนพยาบาลและบุคลากรทางอื่นๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสมกัน

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร กล่าวถึงสถานการณ์แพทย์ในปัจจุบันว่ามีอัตรากำลังแพทย์ทั่วประเทศ ประมาณ 55,000 คน แบ่งเป็น แพทย์ที่อยู่ในระบบของ สธ. ทั้งหมดประมาณ 20,000 คน โดยประมาณ 2,000 คนอยู่ในกรุงเทพมหานคร ส่วนที่เหลืออยู่ในภูมิภาคประมาณ 17,000-18,000 คน ส่วนแพทย์ที่อยู่ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้แก่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย รวมแพทย์ที่มาศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทาง ราว 20,000 คน ส่วนอีก 10,000 คนจะอยู่ในสังกัดอื่นๆ เช่น กรมแพทย์ทหารบก กรมแพทย์ทหารเรือ กรมแพทย์ทหารอากาศ สำนักงานแพทย์ใหญ่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเอกชน ดังนั้น จะเห็นได้ว่า แพทย์ในสังกัดอื่นๆ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยกเว้น สธ.ที่มีโรงพยาบาลในต่างจังหวัดจำนวนมากและยังมีแพทย์จำนวนไม่เพียงพอ

Advertisement

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร กล่าวว่า หากดูจากจำนวนแล้ว อาจจะเห็นว่าแพทย์ในเมืองมีจำนวนมากกว่าต่างจังหวัดเป็นเพราะแพทย์ที่อยู่ในสังกัด 5 กระทรวงหลัก มีสถานพยาบาลตั้งอยู่ใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นหลักโดยเฉพาะสถานพยาบาลระดับสูง เช่น สถานศึกษาที่เป็นสถานที่ฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางและเพื่อรับ-ส่งต่อผู้ป่วยโรคยากและซับซ้อนจากต่างจังหวัด ปัจจุบันแพทยสภามีนโยบายส่ง แพทย์ใช้ทุนออกสู่พื้นที่ต่างจังหวัด โดยผ่านโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะ ในแต่ละปีประมาณ 3,000 คน ดังนั้น 3 ปีจากนี้ แพทย์จบใหม่ราว 9,000 คน ซึ่งคาดว่าจะพอเพียงต่อความขาดแคลนที่มีอยู่ แต่เพื่อความพอเพียงระยะยาว จึงต้องมีตำแหน่ง ค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เพียงพอ มีความปลอดภัยในการทำงาน ร่วมกับโอกาสความก้าวหน้าในการเรียนต่ออย่างต่อเนื่อง จึงจะให้พวกเขาทำงานอย่างความสุขและอยู่ในระบบได้อย่างยาวนาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สถานการณ์ขาดแคลนแพทย์เป็นอย่างไร พล.ต.อ.อิทธพร กล่าวว่า ต้องถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าอดีต แต่จะเพียงพอหรือไม่ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ที่มีความต้องการจำนวนแพทย์ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ไม่สอดคล้องกับจำนวนแพทย์และพยาบาลจะขาดแคลนมาก และภาระงานจะหนักมาก

“ดังนั้น การแก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์จึงไม่ใช่เพียงให้มหาวิทยาลัยทำหน้าที่ผลิตแพทย์ออกสู่สังคมมากขึ้นเท่านั้น แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาช่วยแก้ไขแบบประสานสัมพันธ์ ทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน สถานพยาบาล และส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคประชาชนเข้าใจปัญหาขาดแคลนแพทย์ รวมทั้งรัฐต้องจัดสวัสดิการให้เพียงพอ บ้านพักต้องปลอดภัย มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ จึงจะสามารถทำให้แพทย์คงอยู่ในระบบได้อย่างยาวนาน สำหรับกรณีที่ สธ.แต่งตั้งคณะกรรมการจากหลายฝ่ายเข้ามาดูแลปัญหาการทำงานล่วงเวลามากกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยส่วนตัวมีความเห็นว่า หากทุกฝ่ายเข้าใจข้อเท็จจริง ร่วมกันคิด และเคารพการตัดสินใจซึ่งและกัน พร้อมทั้งร่วมมือช่วยกัน จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยง่าย” พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image