ผู้ว่าจันทบุรี-ฉลามขาว จับแล้ว “เกาะจิกรีสอร์ท” รุกพื้นที่ทะเล 3.96 ไร่

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่มีเรื่องร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีการก่อสร้างที่พักบุกรุกในพื้นที่ชายฝั่งทะเล บริเวณ เกาะจิก หมู่ 1 ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี จึงได้มอบหมายให้นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (จ.ระยอง) พร้อยด้วยนายรัชชัย พรพา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว ทช. ลงพื้นที่ร่วมกับนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ราชการจังหวัดจันทบุรี นายสมชาย ลี้วงศกร นายอำเภอขลุง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี ที่ดินจังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากการรายงานเบื้องต้นพบว่ามีการสร้างรีสอร์ทในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจริง ชื่อ “เกาะจิก รีสอร์ท” โดยได้พบกับนายณรงค์ชัย เหมสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านเกาะจิก และนางเชาวเน ชวนจิตร ผู้ดูแลเกาะจิกรีสอร์ท แต่ไม่เจอนายณรงค์ หงส์บิน เจ้าของรีสอร์ต เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศ จากนั้นคณะได้เดินทางสำรวจบริเวณโดยรอบ เกาะจิกรีสอร์ท พบมี บ้านทั้งหมด 15 หลัง บนบก 6 หลัง ในทะเล 9 หลัง สะพานคอนกรีตยาวประมาณ 50 เมตร และห้องอาหารขนาดใหญ่อีก 1 หลัง หลังจากที่เดินสำรวจแล้วเสร็จ ได้ร่วมประชุมหาแนวทางการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป พร้อมกับสอบถามรายละเอียดกับนายณรงค์ชัย เหมสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านเกาะจิก และนางเชาวเน ชวนจิตร ผู้ดูแลเกาะจิกรีสอร์ท ซึ่งเบื้องต้นได้ให้เจ้าท่าจันทบุรี สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ป่าไม้จังหวัดจันทบุรี ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดว่ามีความถูกต้องหรือไม่

นายณรงค์ชัย กล่าวว่า รีสอร์ต นี้ก่อสร้างมาแล้วประมาณ 4 – 5 ปี ช่วงแรกที่มีการก่อสร้าง ตัวเองและชาวบ้านหลายคน คัดค้านที่รีสอร์ตก่อสร้างห้องพักล้ำทะเลลงไป และได้เข้าพูดคุยกับเจ้าของ พร้อมทั้งร้องเรียนไปยังเจ้าท่าจันทบุรี แต่ก็ไม่ผล กระทั่งรีสอร์ตสร้างเสร็จ และเปิดรับนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด จนถึงปัจจุบัน

Advertisement

นายจตุพร บุรุษพัฒน์

 

นายรัชชัย กล่าวว่า เกาะจิกรีสอร์ต มีเนื้อที่ตามเอกสารโฉนดที่ดิน 97 ตารางวา ปัจจุบันผู้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งครอบครอง แต่อาคารสิ่งก่อสร้างทั้งหมดอยู่นอกเขตเอกสารสิทธิ์ แบ่งเป็น รีสอร์ทในน้ำ 10 หลัง เนื้อที่ 1.83 ไร่ และรีสอร์ตบนบก 5 หลัง เนื้อที่ 1.86 ไร่ รวมเนื้อที่บุกรุก 3.96 ไร่ เบื้องต้นพบว่าความผิดเข้าข่ายตามมาตรา 54 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image