จากกรณีสื่อต่างประเทศระบุว่า อาหารริมทางของประเทศสิงคโปร์เฟื่องฟู กระทั่งมีการผลักดันให้ขึ้นเป็นมรดกทางวัฒนธรรม เนื่องจากมีการสนับสนุนจากรัฐบาล ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีนโยบายจัดเบียบระเบียบทางเท้าและอาหารริมทางนั้น
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีหลายฝ่ายเสนอให้ กทม.นำโมเดลจากต่างประเทศมาใช้ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ที่มีลักษณะปัญหาอาหารริมทางเช่นเดียวกับไทย
“เมื่อไม่นานนี้ ผมได้มีโอกาสร่วมพูดคุยนายกเทศมนตรีสิงคโปร์ รวมถึงพูดคุยประเด็นอาหารริมทาง โดยเหตุที่สิงคโปร์มีนโยบายจัดระเบียบอาหารริมทางอย่างเข้มข้น เนื่องจากพื้นที่เมืองที่มีอยู่จำกัด จึงต้องจัดทำถนนสตรีทฟู้ด หรือศูนย์อาหาร และผลักดันผู้ค้าให้เข้ามาทำการค้าภายในบริเวณดังกล่าว ส่วนบริเวณโดยรอบจะไม่อนุญาตให้รถทุกชนิดเข้าพื้นที่เด็ดขาด” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า แต่จะไม่นำโมเดลดังกล่าวมาปรับใช้กับกรุงเทพฯ เนื่องจากแต่ละประเทศมีประเพณีและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน รวมถึงสิ่งอำนวยความดวกที่เอื้อต่อการบริหารจัดการพื้นที่มีความจำกัด
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การจะทำให้เหมือนกันนั้น ทำได้ยาก ยกตัวอย่าง ร้านกาแฟแถบยุโรปเปิดร้านตั้งอยู่กลางแจ้ง หากจะนำโมเดลนั้นมาใช้กับไทย ทำไม่ได้ เพราะไทยเป็นเมืองร้อน ไม่ใช่เมืองหนาว ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาปิดถนนข้าวสารเพื่อจัดทำเป็นถนนคนเดินนั้น ทำได้ยาก แต่สามารถปิดถนนได้เป็นช่วงเวลาเท่านั้น เพราะต้องคำนึงถึงประชาชนผู้ใช้ถนนสัญจรบนเส้นทางดังกล่าวด้วย