เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะที่ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.ระนอง จ.พังงา จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่ ได้สั่งการให้ สธ.ให้การดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุขผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด จึงได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และโรงพยาบาลในพื้นที่น้ำท่วม จัดบริการประชาชน และติดตามดูแลกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยที่ต้องล้างไต จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ ได้จัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ ยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3,000 ชุด ยาทาน้ำกัดเท้า 2,000 หลอด เสื้อชูชีพ 300 ตัวแล้ว จ.ชุมพร ได้แก่ ยาชุดน้ำท่วม 9,000 ชุด รองเท้าบู้ท 1,000 คู่ เสื้อชูชีพ 100 ตัว ยังไม่มีการร้องขอทีมปฏิบัติการทางการแพทย์จากส่วนกลาง
นพ.สุขุม กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 2 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านทุ่งขี้ต่าย อ.บางสะพาน และ รพ.สต.บ้านศรีนคร อ.บางสะพานน้อย เปิดให้บริการแล้ว และที่โรงพยาบาล (รพ.) บางสะพาน อ.บางสะพาน ล่าสุด เจ้าหน้าที่และทหารได้เข้ามาช่วยกันทำความสะอาดโรงพยาบาล ทดสอบระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ คาดว่าวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ จะสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ ส่วนห้องคลอดและห้องผ่าตัด ยังไม่เปิดทำการ ซึ่งทีมกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กำลังช่วยแก้ไข และทีมสำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) ดูแลเรื่องการเพาะเชื้อ เพื่อทดสอบให้แน่ใจว่าปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉิน คาดว่าประมาณ 2-3 วัน จึงจะสามารถให้บริการตามปกติ โดยรพ.บางสะพาน ได้ตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่โรงเรียนบางสะพานวิทยา เพื่อให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับ จ.ชุมพร สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งเปิดให้บริการตามปกติ
