สบส.ตรวจสอบเคสสาวถูกสาดน้ำกรดเสียชีวิต พบ รพ.เข้าข่ายมีความผิดบางกรณี!

สาวถูกสาดน้ำกรด-เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน  นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีโรงพยาบาลเอกชนไม่รับรักษาผู้ป่วยถูกสาดน้ำกรดจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ไปสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ข้อสรุปว่ามีการกระทำผิดบางเรื่องที่มีอัตราโทษค่อนข้างสูง ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง  คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์นี้ ก่อนสรุปผลส่งให้พนักงานสอบสวนต่อไป เบื้องต้น คือโทษทั้งจำ และปรับ ส่วนใหญ่เป็นการลงโทษผู้ประกอบการฐานไม่กำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน

 

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องของมาตรฐานสถานพยาบาลนั้นเป็นอีกเรื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่อีก 1 ชุดลงไปสอบสวนอยู่ว่าสถานพยาบาลเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ โดยจะดูทั้งเรื่องของเครื่องมือ เรื่องการส่งต่อ ต่างๆ เหล่านี้ทำเป็นมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางสบส.จะต้องมีการสั่งให้โรงพยาบาลแห่งนั้นทำการปรับปรุงแก้ไขภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งแต่ละเรื่องที่หากผิดมาตรฐานนั้นจะสั่งไม่เหมือนกัน แต่ถ้าไม่แก้ไขตามเวลาที่กำหนด ก็จะลงโทษเช่นพักใช้ใบอนุญาต จนถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาล แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขึ้นมาแต่อย่างใด

เมื่อถามถึงการชดเชยเยียวยาแก่ผู้เสียหาย นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชน ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายได้รับการชดเชยความเสียหายตามมาตรา 41 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่เคสนี้ทางญาติผู้ป่วยและโรงพยาบาลสามารถพูดคุยเจรจากันได้

Advertisement

เมื่อถามถึงกรณี รพ.พระราม 2 ชี้แจงว่ามีการดูแลปฐมพยาบาลแล้ว  ขณะที่ผู้ป่วยก็มีสัญญาณชีพ ความดันต่างๆ ก็ปกติดี  นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น หากดูจากกล้องวงจรปิดก็จะเห็นว่า มีการทำแผลจริง เพราะตอนผู้ป่วยออกจากห้องฉุกเฉินมีการพันผ้าพันแผลออกมาด้วย ส่วนเรื่องสัญญาณชีพ ความดันต่างๆ นั้น เนื่องจากไม่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ก็คงต้องดูผลการบันทึกของโรงพยาบาลร่วมด้วย แต่ที่แน่ชัดคือ การดูกล้องวงจรปิดนั้น เพื่อดูเรื่องของการส่งต่อว่า ตอนขามามีสภาพเป็นอย่างไร และก่อนออกไปมีสภาพอย่างไร  เช่น ผู้ป่วยเดินมาตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ แล้วตอนกลับเป็นอย่างไรเดินกลับเองขึ้นแท็กซี่เองหรือไม่

“ขณะนี้เราได้ข้อมูลจากโรงพยาบาลแห่งที่สองมาแล้ว เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลได้ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าข้อมูลของโรงพยาบาลแห่งที่สองเป็นอย่างไร เนื่องจากเป็นความแตกต่างระหว่าง 2 โรงพยาบาลอาจเกิดความขัดแย้งกัน ซึ่งจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กรรมการใช้พิจารณา ว่าตอนมาถึงโรงพยาบาลและตอนไปต่อเป็นอย่างไร เปรียบเทียบกัน ซึ่งจะคาดการณ์ได้ว่าช่วงที่อยู่โรงพยาบาลแรกเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวคงใช้เวลาไม่น่าน คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะพอสรุปความคืบหน้าได้ ซึ่งอันไหนที่เป็นอำนาจของ สบส. จะดำเนินการทันที ถ้าอันไหนเป็นอำนาจพนักงานสอบสวนก็จะต้องรอบคอบในการส่งประเด็นข้อมูลหลักฐานไปเพื่อสามารถดำเนินคดีได้” นพ.ณัฐวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าผลชันสูตรออกมาว่าเกิดภาวะทางเดินหายใจล้มเหลว ต้องนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่  นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าจะพิจารณาประเด็นอะไร อาจจะจำเป็นหรือไม่จำเป็น ตอนนี้จะดูแค่พฤติการณ์กับกล้องวงจรปิด และดูมาตรฐาน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image