‘บิ๊กอู๋’ ฝากแรงงานไทยไปทำงานเกาหลีใต้ ตั้งใจเก็บประสบการณ์มาต่อยอดอาชีพ

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานมอบสัญญาจ้างงานพร้อมกล่าวให้โอวาทแก่แรงงานไทยที่ได้รับการคัดเลือกไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) จำนวน 320 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานในสาขาอุตสาหกรรม ที่กระทรวงแรงงาน

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า แรงงานไทยที่ได้รับการคัดเลือกจากนายจ้างให้เดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี กว่าจะถึงวันนี้ต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกหลายครั้ง รวมทั้งต้องฝึกฝนภาษาเกาหลี และทักษะการทำงานซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องขอชื่นชม การไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีเป็นความใฝ่ฝันของคนไทยจำนวนไม่น้อย เนื่องจากอัตราค่าจ้างที่สูงมาก ประมาณ 40,000-45,000 บาท/เดือน ปัจจุบันมีแรงงานไทยอยู่ทำงานในเกาหลีประมาณ 188,202 คน โดยเป็นแรงงานผิดกฎหมายประมาณ 122,192 คน

Advertisement

“กระทรวงแรงงานได้มีนโยบายการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อดูแลแรงงานไทยโดยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานไทยที่สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้การช่วยเหลือแรงงานไทยและอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนงาน การเดินทางกลับประเทศไทย จัดตั้งที่พักพิงสำหรับแรงงานระบบอีเอสพีที่รอเปลี่ยนนายจ้าง ณ วัดป่าพุทธรังษี ติดตามและผลักดันการเจรจากับสาธารณรัฐเกาหลีในประเด็นต่างๆ อาทิ การเพิ่มโควต้าแรงงานไทยในระบบอีเอสพี จาก 5,000 คน เป็น 15,000 คน การต่ออายุสัญญาจ้างแรงงานงานไทย จาก 9 ปี เป็น 14 ปี และคุณสมบัติด้านอายุ จากไม่เกิน 39 ปี เป็น 45 ปี การเพิ่มตำแหน่งงานสำหรับสตรี การลดระยะเวลาขั้นตอนเอกสารจาก 89 วัน เหลือ 30 วัน จัดทำระบบรองรับการกลับมาของแรงงานไทยตามระบบอีเอสพี โดยมีฐานข้อมูลแรงงานไทยที่กลับมาจากเกาหลี ฐานข้อมูลตำแหน่งงานรองรับในประเทศไทย รวมทั้งสถานประกอบการของทางเกาหลีที่มาลงทุนในประเทศไทย เป็นต้น” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว

พล.ต.อ.อดุลย์ยังได้เน้นย้ำให้แรงงานไทยที่ได้รับการคัดเลือกไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีทุกคน ตั้งใจทำงาน รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ปฏิบัติตามกฎหมายและวัฒนธรรมของสาธารณรัฐเกาหลี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สิ่งของมึนเมา และการพนัน รู้จักเก็บออม และส่งเงินให้กับครอบครัว รวมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงาน

Advertisement

“สิ่งใดที่ดีเป็นประโยชน์ ขอให้จดจำและนำกลับมาใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาษาเกาหลี ซึ่งเมื่อครบสัญญาจ้างและเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะสามารถหางานทำได้โดยง่าย รวมทั้งถ่ายทอดให้กับสมาชิกในครอบครัว หรือคนในชุมชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวเอง ครอบครัว และชื่อเสียงของประเทศไทย รวมทั้งแรงงานไทยที่จะได้เดินทางไปทำงานในรุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image