ลูกจ้างโอด! ค่าจ้างน้อย หาก ธ.ค.ไม่เพิ่ม! พร้อมหา ‘บิ๊กตู่’ ปลัดสธ.รับเรื่องแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในกลุ่มลูกจ้างชั่วคราว เช่น พนักงานเปล ผู้ช่วยพยาบาล พนักงานขับรถ ฯลฯ ต่างออกมาทวงถามความเป็นธรรม ทั้งเรื่องปัญหาภาระงาน ค่าตอบแทน อัตรากำลัง โดยที่ผ่านมามีการแชร์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “สมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย สสลท.”  ถึงการทวงคำสัญญาที่ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับปากภายหลังจากที่ร่วมกันเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 โดยรับปากจะดูแลสิทธิสวัสดิการ ความมั่นคงในการทำงานของพนักงานกระทรวง และลูกจ้างทุกคน โดยต้องมีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่จนบัดนี้ไม่มีวี่แววใดๆ ซึ่งในเพจมีการระดมคนว่า
“หากอีก 1 เดือน หากพวกเรา พกส.และลูกจ้างชั่วคราวจ้างเหมา ยังไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือตามที่ท่านรัฐมนตรี ได้ให้คำมั่นสัญญา จะรวมตัวไปที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง”

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน  นายโอสถ สุวรรณ์เศวต ประธานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างรัฐแห่งประเทศไทย (สสลท.) กล่าวว่า ในส่วนของลูกจ้างชั่วคราวสายสนับสนุนนั้น เดิมในกลุ่มมีความคิดที่จะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง  เพราะไม่เห็นท่าทีหรือความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในการจะช่วยเหลือ  แต่ล่าสุดทางปลัด สธ. ติดต่อมาว่าจะช่วยเหลือ ซึ่งจะทำภาพรวมทั้งระบบ น่าจะจัดหารืออีกครั้งในเดือนธันวาคม ซึ่งก็คงต้องรอผลหารือ แต่ก็มีการพูดคุยกันในกลุ่มแล้วว่า หากเดือนธันวาคมไม่มีอะไรคืบ พวกเราจะรวมตัวกันเดินทางไปขอความช่วยเหลือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนการเลือกตั้งที่กำหนดเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อย่างแน่นอน

นายโอสถกล่าวว่า จริงๆ ไม่ได้ต้องการถึงขั้นไปทำเนียบรัฐบาล แต่ที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย เดิมทีพวกเราเดินทางไปเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ก็ให้มาที่กระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการ สธ. รับผิดชอบ ซึ่งก็มีข้อตกลงร่วมกัน และกำหนดว่าตามข้อเรียกร้องจะได้ข้อสรุปในเดือนตุลาคม โดยข้อเรียกร้องเป็นไปตามเดิม คือ ให้ปรับลูกจ้างชั่วคราวบรรจุเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) และให้เลื่อนปรับลูกจ้างเหมารายเดือนรายวันทุกประเภท ให้เป็นลูกจ้างรายเดือนเพื่อรอปรับบรรจุเป็น พกส.ภายในปี 2562 และปรับค่าจ้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากบรรดาลูกจ้าง สธ. ทั้งลูกจ้างรายวันและรายเดือน มีความเดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการบริหารจัดการ

“ปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้าง ซึ่งทุกวันนี้ สธ.มีลูกจ้างในกระทรวงทั้งหมด 1.4 แสนคน ค่าจ้างต่ำสุดที่ลูกจ้างได้รับวันนี้ คือ 5,500 บาท สูงสุด 11,000 บาท ที่สำคัญ 1.4 แสนคน เป็นสายวิชาชีพ 5-6 หมื่นคน ขนาดพยาบาลยังเป็นลูกจ้าง ทั้งที่ทำงานมากขนาดนี้ ส่วนสายสนับสนุนมีประมาณ 8 หมื่นคน ก็จะเป็นกลุ่มช่างเทคนิค ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยคนไข้ คนสวน พนักงานแปล พนักงานขับรถ กลุ่มนี้เราเคยเรียกร้อง ทุกวันนี้ก็ยังถูกจ้างแบบเดิม มีทั้งลูกจ้างชั่วคราวรายปี รายเดือน รายวัน และจ้างเหมาบริการ โดยเฉพาะจ้างเหมาบริการ ทุกวันนี้ยังจ้างผิดประเภท มีหัวหน้างานไม่เข้าใจไปจ้างเหมาบริการ แต่ใช้งานเหมือนลูกจ้างประจำ ให้ตอกบัตรเข้างาน แบบนี้ไม่ผิดหรืออย่างไร การขึ้นเงินเดือนของ รพ. จะใช้เงินบำรุง จึงไม่เข้าใจว่า เราต้องรอกระทรวงการคลังพิจารณา หรือรอใครอีก สธ.สามารถพิจารณาเองได้เลยด้วยซ้ำ” นายโอสถกล่าว

ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จะมีการประชุมทุกวิชาชีพในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ นักเทคนิคการแพทย์ ฯลฯ ซึ่งหารือทั้งภาระงาน อัตรากำลัง ประเด็นต่างๆ รวมทั้งสิทธิสวัสดิการ การสร้างขวัญกำลังใจ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ว่าจะลดงานบุคลากรทางการแพทย์ แต่ทำเพื่อประชาชน เพราะเราต้องหาจุดที่เหมาะสม เนื่องจากหากภาระงานหนักจนเกินไป สุดท้ายทำงานไม่ไหวก็จะส่งผลต่อการบริการประชาชนอยู่ดี โดยระหว่างนี้ได้ให้แต่ละวิชาชีพส่งข้อมูล แนวทางแก้ปัญหาต่างๆ เข้ามา และจะมาระดมความคิดเห็นกันในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีบ้านพัก ที่พัก บุคลากรสาธารณสุข จะมีการติดตามความคืบหน้าอย่างไร นพ.สุขุมกล่าวว่า จะหารือทั้งหมด เพราะที่พักก็เป็นสิทธิสวัสดิการที่ต้องได้รับ ที่ผ่านมาให้งบประมาณไป 1,000 ล้านบาท ในการปรับปรุงที่พัก ทั้งซ่อมแซม สร้างใหม่ เพราะหลายที่เกินจะซ่อมแซมแล้ว เบื้องต้นจะของบกลางเพิ่มเติมอีกประมาณ 900-1,000 ล้านบาท และจะของบเพิ่มในปีงบประมาณ 2563 อีกประมาณ 3,000 ล้านบาทอีก แต่ที่เร่งด่วนก็จะมีงบเหลือจ่ายเพื่อนำมาซ่อมแซมบ้านพัก อย่างที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้บ้านพักเสียหาย ก็จะนำมาใช้ตรงนี้ก่อน

“สธ.จะทำทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อประโยชน์บุคลากร แต่เราจะเน้นประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุขด้วย เพราะจะส่งผลซึ่งกันและกัน อย่าง รพ.ขนาดใหญ่เราก็เพิ่มศักยภาพบริการด้วย แต่ไม่ได้เน้นเพิ่มเตียง แต่จะไปเน้นศักยภาพห้องไอซียู ในการรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วน รพ.ขนาดกลาง จะเน้นการเพิ่มศักยภาพหมอเฉพาะทาง เพิ่มเตียงบางพื้นที่ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ขนาดใหญ่ก็จะพัฒนาศักยภาพ เพื่อให้บริการประชาชนใกล้บ้าน เราจะเน้นเยี่ยมคนไข้ถึงบ้าน เพื่อลดความแออัดใน รพ.อีกด้วย เห็นได้ว่า เราไม่ได้ทำแค่เฉพาะให้บุคลากรสาธารณสุข แต่เราทำภาพรวมทั้งระบบ” ปลัด สธ.กล่าว

 

Advertisement

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image