นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวถึงกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาประกาศแก้ปัญหาสิทธิบัตรกัญชา ที่ก่อนหน้านี้ภาคประชาสังคม องค์การเภสัชกรรม และมหาวิทยาลัยรังสิตมีข้อกังวล ว่า ไม่เป็นความจริง การที่นายสนธิรัตน์ ออกมาพูดมีการถอนสิทธิบัตรกัญชานั้น จริงๆ แค่ 1 ตัว โดยจากข้อมูลที่ทางเครือข่ายฯ ได้สืบค้นในฐานข้อมูลกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่พอจะหาได้พบว่าล่าสุดมีต่างชาติมายื่นขอสิทธิบัตรเกี่ยวกับกัญชา 13 คำขอ โดยมี 2 คำขอละทิ้ง ก็จะเหลือ 11 คำขอ ปรากฏว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญาระบุว่าถอนสิทธิบัตรกัญชาที่ขัดม. 9(1)เรื่องสารธรรมชาติในกัญชาจดไม่ได้ ซึ่งมีแค่ 1 คำขอเท่านั้น แต่ที่เหลืออีก 10 คำขอยังเดินหน้าต่อไป ที่สำคัญล่าสุดตนพบว่า มี 2 คำขอที่กำลังจะได้สิทธิบัตร ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องลดอาการปวด และเป็นการยื่นขอสิทธิบัตรเรื่องสารในกัญชาที่เรียกว่า THC
“อยากให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาระบุให้ชัดว่า ที่มาขอจดนั้นไม่เกี่ยวกับสารในกัญชา ซึ่งเป็นสารในธรรมชาติจริงๆ เพราะค่อนข้างไม่มั่นใจ และหากให้สิทธิบัตรแล้วจะกระทบต่อนักวิจัยที่พัฒนาสารสกัดกัญชาเพื่อทางการแพทย์หรือไม่ อีกทั้ง ที่เรากังวลคือ ที่ยังยื่นคำขออยู่นั้น ไม่ขัดกับม.9(1) ทั้งหมดหรือไม่ และไม่ขัดต่อม.9(4) ที่ไม่ให้อ้างสรรพคุณด้วยหรือไม่ รวมไปถึงม.5 ของพ.ร.บ.สิทธิบัตรฯ ระบุว่าต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ซึ่งหลายอย่างภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยมีการนำมาใช้อยู่แล้ว ตรงนี้กรมทรัพย์สินฯต้องชัดเจน อีกทั้ง ล่าสุดทราบข่าวมาว่า ทางคุณสนธิรัตน์ ต้องการหารือกับทางกลุ่ม ซึ่งเราก็ยินดี รอแค่มีการติดต่อมา” นายวิฑูรย์ กล่าว
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคประชาสังคมก็ต้องเดินหน้าปกป้องสิทธิของคนไทย เพราะกรณีที่เกิดขึ้นชัดเจนว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ได้มีความพยายามในการปกป้องสิทธิของคนไทย นักวิจัยไทย ถ้าไม่มีการตรวจสอบ หรือพบเรื่องนี้ก็คงเลยตามเลยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางเครือข่ายฯ และทางมหาวิทยาลัยรังสิต ได้ทำหนังสือส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อขอให้พิจารณาและปกป้องสิทธิคนไทย โดยปฏิรูปกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพราะไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิบัตรกัญชาเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องสิทธิบัตรอื่นๆ อีก ต้องมีการปฏิรูปให้เหมาะสม รวมทั้งจะเสนอให้นายกฯ พิจารณาแก้ไขตัวร่างกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่กำลังผลักดันอยู่ ว่า ไม่ควรผูกขาดโดยรัฐ แต่ควรเปิดโอกาสให้เอกชนคนไทยได้มีสิทธิวิจัยพัฒนาและผลิตเพื่อประโยชน์ของคนไทยได้ด้วย
