เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 และนายตำรวจระดับสูงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 9 เดินทางมาที่ศาลจังหวัดปัตตานี เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีความมั่นคง จำนวน 8 คน แยกเป็นคดีลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าฝนพื้นที่ จ.ปัตตานี จำนวน 18 จุด เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2560 ศาลได้อนุมัติหมายจับจำนวน 5 คน สามารถจับกุมตัว นายแวอาลี สะนิ อายุ 31 ปี ส่วน 4 คนที่เหลือยังหลบหนี และคดีเครื่องกระสุนปืนที่ยึดได้ในป่า ต.บางเขา อ.หนองจิก จำนวน 965 นัด เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 3 คน และสามารถจับกุมได้ 1 คน คือ นายอะหะมะ อีปง ส่วนอีก 2 คนยังหลบหนี
จากนั้นจึงได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เพื่อแถลงข่าวผลการจับกุมและยึดอาวุธปืน จำนวน 165 กระบอก กระสุนปืน 1,147 นัด ผู้ต้องหา 152 คน ส่วนคดียาเสพติดสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1,798 คน พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก ซึ่งผลการจับกุมครั้งนี้เป็นการเปิดแผนกวาดล้างจับกุมกลุ่มปืนมือและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง วันที่ 20 พย.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการปฏิบัติเป็นไปอย่างเข้มข้นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในห้วงเทศกาลลอยกระทงและเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึง
ขณะเดียว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้รับมอบตัวผู้ต้องหาคดีความมั่นคง จำนวน 2 ราย คือ นายนายแวอาลี สะนิ และ นายอะหะมะ อีปง ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง จาก พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ซึ่งในการรับมอบตัวได้เชิญทนายความและครอบครัวของทั้งสองคนมาร่วมสังเกตการณ์ในช่วงที่มีการสอบสวน โดย รอง ผบ.ตร.ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเข้าสู่กระบวนการตรวจร่างกายจากแพทย์เพื่อหาร่องรอยความผิดปกติหรือบาดแผลจากตัวผู้ต้องหาในขณะถูกควบคุมตัว แต่ผลการตรวจไม่พบบาดแผลใดๆ โดยรอง ผบ.ตร.ได้ดำเนินการซักถามผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพ โดยนายแวอาลี สะนิ ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า สารภาพว่าได้นำระเบิดชนิดไปป์บอมวางระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 3 ต้น ส่วนนายอะหะมะ อีปง สารภาพว่า นายเสรี แวมามะ แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบและมีหมายจับคดีความมั่นคงหลายคดีนำกระสุนปืนมาให้เก็บซุกซ่อนไว้ ซึ่งภายหลังจากรับมอบตัวและดำเนินตามกรรมวิธีแล้วเสร็จจึงมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
