“อัจฉริยะ” เตรียมหอบข้อมูลเพิ่มส่งแพทยสภา 23 พ.ย.ปมคดีหมอสูติฯปากน้ำโพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. จะเดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกแพทยสภา กรณีที่ชมรม ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่าถูกหมอสูตินรีเวชลวนลามขณะเข้ารับบริการตรวจภายใน เพื่อให้แพทยสภา พิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 และตามข้อบังคับว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 เนื่องจาก นายแพทย์คนดังกล่าวเป็น ผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม แต่ไม่ดำรง ตนในสังคมโดยธรรม ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง มีพฤติกรรมในหลอกลวงผู้ป่วยให้เข้าใจผิด เพื่อประโยชน์หรือความต้องการแห่งตนเอง และพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพเวชกรรม
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปทางแพทยสภา ทราบว่า ทางชมรม ได้ประสานเข้ามาเพื่อจะเดินทางมาร้องเรียนที่แพทยสภา เพื่อขอให้มีการตรวจสอบแพทย์รายนี้ ในวันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น.

แหล่งข่าวจากแพทยสภา ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นยังไม่มีใครมาร้องเรียนกับแพทยสภา แต่ทางแพทยสภามีหน้าที่เก็บข้อมูล ก็ได้มีการเก็บข้อมูลมาตลอดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยังขาดหลักฐานข้อเท็จจริง โดยทราบว่าทางชมรมฯได้มีการลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งจะนำเข้ามาในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) หากมีการร้องเรียนทางเลขาธิการแพทยสภาก็จะมีการขอข้อมูลเพื่อนำข้อมูลข้อเท็จจริงมารวบรวมกับข้อมูลที่แพทยสภามีอยู่ เพื่อนำเสนอข้อมูลทั้งหมดเข้าในการประชุมของคณะกรรมการแพทยสภาครั้งต่อไป เพื่อสรุปรายละเอียดหามติว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าถึงกรณี ความคืบหน้าคดีหมอสูติลวนลามคนไข้ในคลินิกว่า เรื่องนี้ยังคงรอทางแพทยสภาสอบถามความเห็นมา เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาของคณะอนุกรรมการจริยธรรมที่ทราบว่าจะมีการประชุมในเดือนธันวาคม ส่วนกรณีที่มีการเปิดเผยการให้ข้อมูลของหมอสูติฯคนดังกล่าวกับทนายชื่อดัง ที่ระบุว่าคนไข้ถูกสเปก เรื่องนี้หากไปในแง่ของพูด เหมือนกับชมว่าสวย แต่ไม่ได้มีการล่วงเกินคนไข้ ก็ถือว่าเป็นคำชื่นชมปกติ

นพ.ภิเศก กล่าวว่า ส่วนการตรวจคลำเต้านม ถือเป็น 1 ในกระบวนการตรวจโรคทางนรีเวช ใช้ในการตรวจกรณีพบความผิดปกติ เช่นมีหนอง หรือเจ็บร่วม แต่ในกรณีที่ไม่มีข้อบ่งชี้ก็ไม่ควรตรวจ เพราะไม่เหมาะสม ไม่ควรทำ ทั้งนี้ไม่อยากให้เรื่องนี้กระทบจนทำให้หญิงทั่วไปไม่กล้าตรวจภายใน หรือตรวจหาโรค เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นน้อยมาก ปัจจุบันมีแพทย์สูตินรีเวช 3,000 คน ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image