“บิ๊กอู๋”ห่วงแรงงานไทยในอิสราเอล จัดทีมแพทย์ตรวจสุขภาพ กำชับ สนร.ลงพื้นที่ดูแล

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักข่าวบีบีซีไทยระบุถึงแรงงานไทยในอิสราเอล ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกละเมิดสิทธิ์ และได้รับค่าตอบแทนต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด สภาพการทำงานไม่ตรงตามสัญญา และมีสภาพที่อยู่อาศัยไม่ถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ในรายงานยังระบุอีกว่า รอบ 6 ปี มีแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิตกว่า 170 คน ว่า รัฐบาลไทยโดยกระทรวงแรงงานได้ลงนามในข้อตกลงด้านแรงงานกับรัฐบาลอิสราเอล เรื่องการจ้างแรงงานไทยทำงานชั่วคราวในภาคเกษตรในรัฐอิสราเอลเมื่อปี 2555 ปัจจุบันมีแรงงานไทยไปทำงานในประเทศอิสราเอล จำนวน 24,746 คน ระยะเวลาการจ้างครั้งละ 2 ปี และสามารถต่อสัญญาจ้างงานได้อีก 3 ปี 10 เดือน รวมแล้วไม่เกิน 5 ปี 10 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคเกษตร อัตราค่าจ้างขั้นต่ำในอิสราเอล เดือนละ 5,300 เชคเกลอิสราเอล หรือประมาณ 47,000 บาท

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า แรงงานไทยที่เข้าไปทำงานในอิสราเอลอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยการจัดส่งโดยกรมการจัดหางาน (กกจ.) จะผ่านกระบวนการคัดเลือก รวมถึงการตรวจสุขภาพว่ามีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงพร้อมที่จะเดินทางไปทำงานภาคเกษตรในอิสราเอลหรือไม่ นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังมีมาตรการในการติดตามคุ้มครองดูแลให้แรงงานไทยในอิสราเอลได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย หากมีปัญหาเกิดขึ้น สามารถร้องเรียนขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ให้ความช่วยเหลือแรงงานในอิสราเอล ซึ่งผลการช่วยเหลือที่ผ่านมาสามารถเรียกร้องเงินชดเชยให้แก่แรงงานไทยกว่า 47 ล้านบาท

“ได้สั่งการให้ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เข้าไปดูแลแรงงานไทยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งในปี 2562 ฝ่ายแรงงานฯ ได้จัดให้มีคณะแพทย์และพยาบาลจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการตรวจสุขภาพแรงงาน จำนวน 3 ครั้ง เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพแรงงานทั่วไป และเน้นหนักไปที่การศึกษาและประเมินสภาพการทำงาน สภาพความเป็นอยู่” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวและว่าเรื่องนี้ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีกำหนดจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมแรงงานไทยที่อิสราเอลในเร็วๆ นี้ด้วย

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image