เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซอยเทศบาลบางปู จ.สมุทรปราการ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคนขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าพุ่งชนเด็กนักเรียนโรงเรียนบดินทร 3 ที่ยืนรอรถเมล์บนทางเท้า บริเวณปากซอยลาดพร้าว 69 จนทำให้เด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีนโนบายกวดขันผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนเท้าต่อเนื่อง โดยกทม.ได้ออกสั่งให้ทุกสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ช่วยสอดส่องและและกวดขันไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกปฏิบัติหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนที่ขับขี่จักรยานยนต์บนเท้าว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาทและปรับขั้นต่ำ 500 บาท อีกทั้ง การกระทำดังกล่าวยังถือเป็นการเอาเปรียบสังคมชัดเจน
“ผมว่าคนขับต้องแก้พฤติกรรม และต้องแก้สันดานด้วยว่าอย่าไปทำแบบนั้น ผมไม่ได้พูดหยาบคาย เพราะสันดอนมันยังขุดได้ เอาจอบขุดได้ แต่สันดานขุดได้ยาก ดังนั้น มนุษย์ต้องขัดเกลากันด้วยจริยธรรมด้วยของตน คนที่ชอบขับขี่บนทางเท้า ลองคิดดูบ้างว่าลูกหลานของท่านโดนชนจะเป็นยังไง ฝากไปถามถึงคนที่ชนด้วยว่าถ้าคุณขี่ไปชนลูกตนเองบ้างจะรู้สึกยังไง” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า ส่วนการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กทม.มีการประสานความร่วมมือด้วย ส่วนมาตรการของกทม.นั้น ที่ผ่านมาได้ออกมาตราการควบคุมผู้ขับขี่บนทางเท้า ทั้งการจับปรับผู้ขับขี่ โดยกทม.ไม่ได้มีเจตนาอยากจับปรับประชาชน เพราะส่วนหนึ่งมีรายได้น้อย ไม่อยากเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย แต่กทม.ขอเพียงว่าต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมบ้าง
ด้านนายโกมินทร์ ชินบุตร ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยพบว่าผู้ที่ก่อเหตุไม่ใช่วินรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ แต่เป็นพนักงานส่งเอกสาร จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันยังได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ 10 ราย ประจำบนฟุตบาท บริเวณถนนลาดพร้าว โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณโรงเรียน ในช่วงเวลาเข้าเรียน-เลิกเรียน ตลอดจนเข้มงวดกวดขันในการจับปรับมากยิ่งขึ้นด้วย
