เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯ กทม. นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. ประชุมร่วมกับผู้แทนมูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงของเรา) (The Voice Foundation) นำโดย น.ส.ชลลดา เมฆราตรี (เก๋) ดาราและนักแสดงในฐานะผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ และผู้เกี่ยวข้อง เช่น เครือข่ายมูลนิธิ องค์กรและกลุ่มคนรักสัตว์ ฯลฯ หารือถึงแนวทางการจัดการและแก้ปัญหาสุนัขจรจัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายหลัง กทม.มีนโยบายการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดที่มีกว่า 150,000 ตัว โดยการจับไปดูแลยังสถานพักพิงสัตว์ประเวศ ก่อนส่งไปดูแลยังสถานพักพิงสุนัขอ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ซึ่งแนวทางดังกล่าวสร้างความกังวลใจให้กับกลุ่มคนรักสัตว์อย่างมาก รวมถึงมีหลายประเด็นที่กลุ่มคนรักสัตว์มีความห่วงใย
พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมว่า ตามที่ กทม.ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนถึงข้อกังวลของสุนัขจรจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทั้งสุนัขจรจัดที่ดุร้าย การติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า กทม.จึงมีมอบนโยบายให้ 50 สำนักงานเขต ส่งเจ้าหน้าที่เข้ารับการอบรมการจับสุนัขที่ถูกต้อง เนื่องจากปัจจุบันมีสุนัขจรจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ราว 150,000 ตัว กทม.จึงออกมาตรการให้เจ้าหน้าที่ออกจับสุนัขจรจัดอย่างเข้มข้น โดยสุนัขที่มีเจ้าของก็มีผู้ทยอยเดินทางไปรับสุนัขยังสถานพักพิงสัตว์ประเวศต่อเนื่อง ส่วนสุนัขที่ไม่มีเจ้าของจะถูกกักกันไว้ เพื่อดูอาการและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามขั้นตอน ขณะที่กลุ่มคนรักสัตว์ได้มีความกังวลใจต่อนโยบายของ กทม.ดังนั้น กทม.จึงเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมหารือเพื่อหาทางออกให้ทุกฝ่ายได้รับความพึงพอใจมากที่สุด
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เบื้องต้น กทม.จะตั้งคณะกรรมการการจัดการและแก้ไขสุนัขจรจัดในกรุงเทพมหานคร ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการจัดการตามแนวทางที่ภาคประชาชนเสนอให้สามารถควบคุมและป้องกันได้ด้วยการบริการจัดการที่ดีและชัดเจน รวมถึงเพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความเข้าใจระหว่าง กทม.และกลุ่มคนรักสัตว์
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กทม.จะหยุดการจับสุนัขจรจัด ยกเว้น สุนัขที่สร้างความเดือดร้อน สุนัขดุร้าย และมีความเสี่ยงติดโรคพิษสุนัขบ้าตามที่ได้รับร้องเรียนจากประชาชนเท่านั้น จนกว่าคณะกรรมการทำงานที่มีกรรมการจากทุกภาคส่วน จะออกเงื่อนไขและข้อกำหนดของการจับสุนัข การทำหมัน การฉีดวัคซีน ลงทะเบียนสุนัขและการจัดการบริหารสถานที่พักพิงสัตว์จนได้ข้อยุติ ภายในระยะเวลา 100 วัน ยืนยันต้องมีการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงแน่นอน” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า ส่วนผลสรุปจะนำไปเป็นสู่การแก้ไขข้อบัญญัติกทม.หรือไม่นั้นจะหารือในรายละเอียดร่วมกันต่อไป โดยปัจจุบันสุนัขที่มีเจ้าของ หากเลี้ยงสัตว์อย่างขาดความรับผิดชอบก็สามารถเอาผิดกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ ซึ่งมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจน
ด้าน น.ส.ชลลดา กล่าวว่า นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ กทม.ได้เปิดโอกาสให้เครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับสุนัขและแมวจรจัด โดยเครือข่ายจะร่วมติดตามและพิสูจน์แนวทางการดำเนินการของกทม. กรณีที่หยุดจับสุนัขชั่วคราวต้องเป็นสุนัขที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชุมชน ส่วนสุนัขดุร้าย สุนัขที่เป็นอันตรายหรือเสี่ยงติดโรคติดต่อภายในชุมชน ทางเครือข่ายยินดีให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับทันที โดยตลอดระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มคนรักสัตว์มีความกังวลใจต่อประเด็นดังกล่าว ขอให้คลายความกังวลได้ระดับหนึ่ง
