ตามที่โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกประกาศชี้แจงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนางสาวน้ำมนต์ บุญเสน่ห์ ทำหมันแล้วท้อง โดยให้การช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆ นั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
รพ.เลิดสินแจงข้อเท็จจริง ‘ทำหมันแล้วท้อง’
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการ
เนื่องจากที่ผ่านมา สปสช.อ้าง มาตรา 41 จ่ายเงินสารพัด โดยไม่สนใจว่าแพทย์พยาบาลให้การรักษาถูกต้องหรือไม่ อ้างว่าเห็นใจ อ้างว่าไม่ต้องพิสูจน์ผิดถูก (No fault) จนทำให้ฝั่งเอ็นจีโอ ไปขยายผลผลักดัน พ.ร.บ. คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารสุข หรือพ.ร.บ.ชื่ออะไรก็ตามที โดยใช้บุคลากรเป็นเหยื่อ ว่าเป็นผู้ก่อความเสียหาย
“ทำกันมานาน จนกระทั้งคนไข้ก็อ้างเอามาตรา 41 เป็นบรรทัดฐานไปฟ้องร้องต่อว่า “ก่อความเสียหาย” ผู้บริหารรพ.หลายท่าน เอะอะ คนไข้ไม่พอใจ ก็บอกว่าจะทำเรื่องขอเงิน มาตรา 41มาให้ จนกลายเป็นบรรทัดฐานผิด ๆ บ่อนทำลายกำลังใจผู้ปฏิบัิติงานและกระตุ้นให้มีการฟ้องร้องตามมาภายหลัง”
สปสช.พยายามพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า ไม่ได้ทำผิด มาตรา 41 เพราะอนุญาตให้จ่ายได้โดยไม่ต้องพิสูจน์ผิดถูก แค่ผลการรักษาไม่เป็นที่น่าพอใจ ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเสียหาย หรือแม้แต่เหตุสุดวิสัย สารพัด ก็จ่ายได้ เลย
ที่ผ่านมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เคยท้วงติงแล้ว แต่ยังเฉย หนักไปกว่านั้น คือ สปสช. มีความเห็นว่าคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ท้วงว่า “ออกข้อบังคับ ขัดต่อกฎหมายแม่” และ “เจตนารมย์ของกฎหมาย คือ ให้พิสูจน์ผิดถูก ก่อนเยียวยา แบบนี้ สปสช.กำลังท้าทาย ม. 157 และ พรบ ปปช. 123/1 หรือไม่
“บุคลากรที่เกี่ยวข้องใน สปสช.รู้หรือไม่ว่า กฤษฎีกา ทำความเห็นนี้มานานแล้ว ความเห็นนี้ไปตกหล่นอยู่ที่ลิ้นชักใครใน สปสช. จึงทำให้ผู้ปฏิบัติงานในสปสช. ไม่ทราบว่าตนกำลังทำผิดกฎหมายนี้อยู่”