เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือไบโอไทย กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการติดตามความคืบหน้าดำเนินการยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาของต่างชาติ กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ว่า ถึงแม้จะได้ยินข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะใช้ ม.44 ยกเลิกการขอจดสิทธิบัตรเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ แต่ในระยะยาวอาจจะเกิดปัญหาการฟ้องร้องขึ้นได้ เพราะ ม.44 ใช้ในต่างประเทศไม่ได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ต้องใช้กลไกของกรมทรัพย์สินทางปัญญายกเลิกคำขอ เพราะกรมทรัพย์สินทางปัญญามีอำนาจที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม หากยังไม่ดำเนินการยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตร เครือข่ายประชาชน ทั้งไบโอไทย, กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือ เอฟทีเอ วอทช์ ฯลฯ ก็จะมีการฟ้องต่อศาลปกครอง และศาลทรัพย์สินทางปัญญาอย่างแน่นอน
“เพราะเรื่องนี้ทางเครือข่ายไม่นิ่งนอนใจมีการจับตา และรวบรวมข้อมูลอยู่ตลอด ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของคนไทย นอกจากนี้ ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เชิญผม และ น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มเอฟทีเอ วอทช์ ไปร่วมให้ข้อมูลภายหลังจากที่มีการผ่านกฎหมายให้สามารถนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ได้ รวมถึงร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอจดสิทธิบัตรกัญชาด้วย ทั้งนี้เรายังมีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมเศรษฐกิจอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ขอจดสิทธิบัตรหรือไม่ หากไม่มีก็อยากให้มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือออกมาแสดงความชัดเจนกับเรื่องนี้ เพราะเรากังวลว่าอาจมีการนำกัญชาที่คลายล็อกให้นำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เพื่อผู้ป่วยนั้น อาจถูกนำมาใช้เป็นตัวดึงดูดต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนในไทย โดยการปล่อยให้มีการจดสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชาหรือไม่ เป็นต้น” ผอ.มูลนิธิชีววิถี กล่าว
