16 ธ.ค. ดาวหาง ‘วีร์ทาเนน’ เยือนโลก สว่างโร่ มองเห็นด้วยตาเปล่า

ภาพดาวหางวีร์ทาเนนเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ภาพถ่ายแสดงให้เห็นโคม่าสีเขียวและหางจางๆ (จาก Michael Jäger)

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นายวรเชษฐ์ บุญปลอด กรรมการบริหารสมาคมดราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า กลางเดือนธันวาคมนี้ ดาวหางวีร์ทาเนน มีกำหนดจะผ่านใกล้โลก โดยดาวหางดวงนี้เป็นดาวหางรายคาบที่เข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดทุกๆ 5 ปีครึ่ง การมาของดาวหางในปีนี้นับว่าน่าสนใจที่สุดในรอบหลายปีนับตั้งแต่ค้นพบ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ดาวหางจะมีความสว่างมากพอให้เห็นได้ด้วยตาเปล่าจากสถานที่ซึ่งท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงไฟฟ้า แสงจันทร์ และเมฆหมอกรบกวน

“ดาวหางวีร์ทาเนนมีชื่ออย่างเป็นทางการในบัญชีดาวหางของสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลว่า 46 พี/วีร์ทาเนน (46P/Wirtanen) ตัวอักษร P หมายความว่า เป็นดาวหางรายคาบ คือมีคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์น้อยกว่า 200 ปี ตัวเลขนำหน้าเป็นลำดับในบัญชีดาวหางรายคาบ คาร์ล เอ. วีร์ทาเนน นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน ค้นพบดาวหางดวงนี้ในภาพถ่ายที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 15 มกราคม ค.ศ.1948 จากโครงการสำรวจท้องฟ้าของหอดูดาวลิกในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา” นายวรเชษฐ์กล่าว

นายวรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับวงโคจรของดาวหางวีร์ทาเนน หรือ 46 พี เป็นวงรี ปัจจุบันจุดใกล้ดวงอาทิตย์อยู่ไกลกว่าวงโคจรของโลกออกเป็นเล็กน้อย ส่วนจุดไกลดวงอาทิตย์ที่สุดอยู่เกือบถึงวงโคจรของดาวพฤหัสบดี ระนาบวงโคจรเอียงทำมุมเพียง 11 องศา กับระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ดาวหางมีโอกาสผ่านใกล้โลก ดาวอังคาร และดาวพฤหัสบดี โดยวงโคจรมีการเปลี่ยนแปลงตามแรงโน้มถ่วงรบกวนจากวัตถุต่างๆ ในระบบสุริยะ ผลการสังเกตการณ์ที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์วัดได้ว่า ดาวหางดวงนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2 กิโลเมตร

“วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ตามเวลาประเทศไทย ดาวหางวีร์ทาเนนจะผ่านใกล้โลกที่สุดด้วยระยะห่าง 0.077 หน่วยดาราศาสตร์ หรือประมาณ 11.6 ล้านกิโลเมตร (1 หน่วยดาราศาสตร์คือระยะห่างเฉลี่ยระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์) เทียบได้กับระยะทางประมาณ 30 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ ขณะนั้นดาวหางอยู่สูงบนท้องฟ้าทิศตะวันออกในกลุ่มดาววัว คาดว่าท้องฟ้าฤดูหนาวของประเทศไทยอาจเป็นโอกาสเหมาะสำหรับการสังเกตดาวหางดวงนี้” นายวรเชษฐ์กล่าว

Advertisement
แผนที่แสดงตำแหน่งดาวหางวีร์ทาเนนในเดือนธันวาคม 2561 ขอบฟ้าแสดงที่เวลา 2 ทุ่มของกลางเดือนธันวาคม ตรงกับเวลา 3 ทุ่มของต้นเดือนธันวาคม และ 1 ทุ่มของปลายเดือนธันวาคม

นายวรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ดาวหางวีร์ทาเนนมีความสว่างค่อนข้างต่ำ จำเป็นต้องใช้กล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาขนาดใหญ่ส่องดูจึงจะเห็นได้ โดยปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวเตาหลอม ดาวหางมีแนวโน้มสว่างขึ้น เนื่องจากกำลังเคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น ความร้อนและการแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์ทำให้น้ำแข็งบนดาวหางระเหิด พ่นฝุ่นและแก๊สออกไปรอบๆ กลายเป็นเป็นหัวและหางของดาวหาง

“หากดาวหางวีร์ทาเนนมีพัฒนาการไปในทิศทางใกล้เคียงกับที่พยากรณ์ไว้ คาดว่าดาวหางจะสว่างขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาอยู่ในกลุ่มดาวเตาหลอม ซึ่งเป็นกลุ่มดาวที่มีดาวสมาชิกไม่สว่าง อยู่ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกลุ่มดาวนายพราน (ดาวเต่าของไทย) จากนั้นเคลื่อนไปทางทิศเหนือ ผ่านพื้นที่ของกลุ่มดาวซีตัสและกลุ่มดาวแม่น้ำในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม จากนั้นเข้าสู่กลุ่มดาววัว โดยผ่านจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ขณะที่ดาวหางใกล้โลกที่สุดในคืนวันที่ 16 ธันวาคม 2561 หรือ 4 วัน หลังจากใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด เราสามารถระบุตำแหน่งของดาวหางวีร์ทาแนนได้ค่อนข้างง่าย เพราะดาวหางอยู่ใกล้กระจุกดาวลูกไก่ เป็นบริเวณซึ่งมีดาวสว่างปานกลางหลายดวงอยู่เป็นกระจุก จึงสังเกตเห็นได้ง่ายด้วยเปล่า ตำแหน่งของดาวหางอยู่ใกล้เคียงแนวเส้นที่ลากระหว่างกระจุกดาวลูกไก่ถึงดาวอัลเดบารันหรือตาวัว ซึ่งเป็นดาวฤกษ์สว่างที่สุดในกลุ่มดาววัว” นายวรเชษฐ์กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าดาวหางวีร์ทาเนนอาจสว่างที่สุดด้วยโชติมาตร หรืออันดับความสว่างประมาณ 3 หรือ 4 (เป็นการคาดหมายจากข้อมูลในอดีต อาจสว่างน้อยกว่านี้ก็ได้) นักดาราศาสตร์บอกความสว่างของวัตถุท้องฟ้าเป็นตัวเลข โดยยิ่งมีค่าน้อยยิ่งสว่าง ดาวโชติมาตร 6 เป็นดาวจางที่สุดที่คนสายตาปกติจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าภายใต้ท้องฟ้ามืด ในทางทฤษฎี ดาวหางจึงสว่างพอจะเห็นได้ด้วยตาเปล่า

Advertisement

สำหรับกรณีของดาวหางวีร์ทาเนนซึ่งจะมาใกล้โลกที่สุดในกลางเดือนธันวาคมนี้ การที่ดาวหางอยู่ใกล้โลกทำให้ดาวหางมีความสว่างมากกว่าตอนอยู่ไกลก็จริง แต่ก็ทำให้หัวดาวหางแผ่กว้างออกเป็นดวงโต คาดว่าอาจมีขนาดปรากฏพอๆ กับดวงจันทร์เต็มดวง หรืออาจใหญ่กว่าได้เกือบ 2 เท่า แปลว่าความสว่างของดาวหางจะถูกเกลี่ยจนทำให้มีความสว่างพื้นผิวต่ำ และหางจะไม่ยาวมาก การสังเกตดาวหางจากเมืองใหญ่ที่มีแสงและมลพิษรบกวนจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือเป็นไปได้ยากมาก ยกเว้นจะมีการปะทุความสว่างขึ้นอย่างผิดปกติ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น การสังเกตดาวหางวีร์ทาเนนจะทำได้ดีจากสถานที่ห่างไกลจากตัวเมือง ยิ่งมืด ห่างไกลจากแสงรบกวนมากเท่าใดก็มีโอกาสเห็นมากขึ้นเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image