แพทย์วอนรัฐเก็บภาษีโซเดียม ยันช่วยลด ‘ป่วยตาย’ ได้ถึง10%

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ อาจารย์สาขาวิชาโรคไต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม กล่าวว่า การที่กรมสรรพสามิตจะมีมาตรการจัดเก็บภาษีในอุตสาหกรรมอาหารที่มีโซเดียมสูง ถือเป็นมาตรการที่เหมาะสม เพราะทุกวันนี้คนไทยกินเค็มสูงถึง 2 เท่า ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง 13 ล้านคน โรคไต 7.6 ล้านคน โรคหลอดเลือดสมอง 5 แสนคน และโรคหัวใจขาดเลือด 750,000 คน เฉพาะค่าใช้จ่ายในการล้างไตสูงถึง 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ค่าฟอกเลือด 2 แสนบาทต่อคนต่อปี และมีจำนวนคนไข้ที่ฟอกเลือดเพิ่มขึ้นปีละ 2,000 คน ยังไม่นับรวมค่ายารักษา ส่งผลให้รายจ่ายทางสุขภาพของรัฐสูงถึงปีละ 50,000-100,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 15

ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจึงได้ดำเนินมาตรการลดการบริโภคเค็ม โดยพบว่าหากลดให้ได้อย่างน้อยร้อยละ30 จะป้องกันไม่ให้เสียชีวิตถึงร้อยละ 10 และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 50,000-100,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี สำหรับการดำเนินมาตรการลดการบริโภคเค็มในสังคมไทย ที่ผ่านมา ได้มีการทำงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอความร่วมมือภาคอุตสาหกรรมให้ปรับสูตรอาหารลดโซเดียมลงร้อยละ 30 ภายใน 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก แต่ยังไม่สำเร็จ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีความเค็มสูงคือ อาหารสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป และกลุ่มขนมขบเคี้ยว ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในอาหารอุตสาหกรรมที่มีโซเดียมสูงจะช่วยให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าที่มีโซเดียมลดลงมากขึ้น เพราะจากประสบการณ์ต่างประเทศพบว่า ประชาชนเลือกซื้อสินค้าด้วยเหตุผลเรื่องราคาผลิตภัณฑ์ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับการคำถึงถึงสุขภาพที่มีเพียงร้อยละ 20 เช่น ฮังการี มาตรการภาษีได้ผลมากกว่าการให้ความรู้เพียงอย่างเดียว

“มาตรการภาษีโซเดียมเป็นสิ่งที่รัฐต้องจัดการเพื่อสุขภาพของประชาชน และหากมีข้อกังวลว่าจะกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยจะเดือดร้อนนั้น จากข้อมูลพบว่าร้อยละ 70 ของผู้ป่วยโรคเรื้อรังมาจากผู้ที่มีฐานะยากจน เพราะมีทางเลือกน้อยและไม่มีเวลาศึกษาข้อมูล ดังนั้นเราควรปกป้องกลุ่มคนเหล่านี้โดยทำให้อาหารดีต่อสุขภาพราคาถูกกว่าสินค้าที่ทำลายสุขภาพ โดยสินค้าที่ลดโซเดียมในหมวดเดียวกันที่ไม่เสียภาษี ก็ไม่ควรอาศัยจังหวะนี้ขึ้นราคา นอกจากนี้ มาตรการที่ควรทำควบคู่กันคือ สร้างความตระหนักให้กับผู้บริโภค โดยมีสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพให้กับผู้บริโภค” ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าว

นายธนพล ดอกแก้ว ประธานชมรมเพื่อนโรคไต กล่าวว่า สนับสนุนมาตรการจัดเก็บภาษีโซเดียมในอุตสาหกรรมอาหารที่มีโซเดียมสูง และว่าเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการกินเค็ม ชอบกินขนมขบเคี้ยว และกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตั้งแต่เป็นนักศึกษา ทำให้เป็นความดันโลหิตสูงตั้งแต่อายุไม่ถึง 25 ปี และเป็นไตวายระยะสุดท้ายเมื่ออายุ 30 ปี ซึ่งขณะนั้น บัตรทองยังไม่ครอบคลุมค่าฟอกไต ฟอกเลือด ทำให้มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 6,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 72,000 บาท หากรัฐต้องแบกรับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลทั้ง 4 โรคเรื้อรัง จะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงถึงปีละหลายหมื่นล้านบาท และหากปล่อยให้คนไทยบริโภคเค็มต่อไปจะเป็นภาระทางสุขภาพของประชาชนและต่อประเทศด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image