ความคืบหน้ากรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(ทส.) บูรณาการการทำงานสืบสวน สอบสวนจนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการตัดไม้ในเขตพื้นที่ จ.เลย และ จ.เพชรบูรณ์ และล่าสุดขยายผลการติดตามถึง จ.อ่างทอง พร้อมเข้าตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร บริษัท แสงประไพ จำกัด เลขที่ 15/3 หมู่3 ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พบว่ามีพฤติการณ์รับซื้อไม้ท่อนที่มีหลักฐานการได้มาโดยมิชอบ จึงทำการยึดไม้กว่า 1,000 ท่อน ไว้ตรวจสอบนั้น
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม นายชีวะภาพ ชีวธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เปิดเผยภายหลังนำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ร่วมกับตำรวจเข้าตรวจโรงเลื่อยจักรแสงประไพ และยึดไม้ของกลางกว่า 1,000 ท่อน ว่า ขณะนี้ได้มอบให้เจ้าหน้าที่นำไม้ทั้งหมดไปคัดแยกเพื่อตรวจสอบว่าตรงกับเอกสารหลักฐานที่โรงเลื่อยได้แสดงกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 วัน จึงจะทราบผล แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้นขณะนี้ชัดเจนว่า ในจำนวนใบอนุญาต 7 ฉบับนั้น มีถึง 4 ฉบับที่เป็นใบอนุญาตปลอม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผบ.ตร.(ด้านความมั่นคง) ระบุว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ให้ความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตรวจสอบโรงเลื่อยจำนวนกว่า 200 แห่ง ว่ามีการปลอมแปลงเอกสารลักษณะนี้อีกหรือไม่ นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่า หลังจากคัดแยกไม้ของกลางชุดนี้แล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเลื่อยเป้าหมายอีกประมาณ 5 แห่ง เพราะคาดว่าจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเช่นกัน