เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีการร้องเรียนให้ กทม.ตรวจสอบและแก้ไขร่างเงื่อนไขการประกวดราคา หรือทีโออาร์ โครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผามูลฝอยขนาดไม่ต่ำกว่า 1,000 ตันต่อวัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขมและอ่อนนุช มูลค่ารวมประมาณ 13,140 ล้านบาท เนื่องจากเกรงว่าอาจจะล็อกสเปกให้กับผู้รับจ้างรายหนึ่งรายใด ไม่เปิดกว้าง รวมถึงทำให้ กทม.จ่ายค่าเก็บขนขยะในราคาสูงเกินไป ว่า สำหรับโครงการดังกล่าวพบว่า มีผู้ร้องเรียนทั้งรายบุคคลและองค์กรต่างๆ ประมาณ 12 ราย ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของโครงการทำการชี้แจงข้อร้องเรียนให้ทั้งหมดทราบแล้ว และยืนยันว่า กทม.ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง ตามแนวทางการประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลาง และการคำนวณราคากลางเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 63 จัดทำเป็นคู่มือให้หน่วยงานของรัฐได้ถือปฏิบัติ และทีโออาร์เปิดกว้าง เพื่อให้บริษัทที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าร่วมได้ทั้งหมด ไม่มีการกีดกันบริษัทใดบริษัทหนึ่งแต่อย่างใด
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า จะเดินหน้าโครงการต่อไป หลังจากประกาศร่างทีโออาร์แล้วจะเปิดขายซองประกวดราคา โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 50 วัน หลังจากนั้นจะตรวจสอบคุณสมบัติและคัดเลือกเอกชนที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมประกวดราคา คาดว่าประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะได้ผู้ชนะการประกวดราคา หลังจากนั้นจะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาตรวจสอบตามขั้นตอน เพื่อความถูกต้อง ก่อนที่จะมีการลงนามสัญญา
“ในส่วนของราคาค่าจ้างดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยที่มองว่าราคาแพงกว่าต่างจังหวัดนั้น ผมยืนยันว่ามีความแตกต่างในด้านของคุณภาพ ผมยังไม่เห็นว่ามีจังหวัดใดที่สามารถดำเนินโครงการและประสบความสำเร็จอย่างที่ กทม.ทำ จึงอยากให้พิจารณาด้วยความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม จะพยายามให้ราคาค่าจ้างถูกกว่า 900 บาทต่อตัน หากพบว่าในการกระบวนการประกวดราคาทำให้ กทม.ต้องจ่ายค่าเก็บขนแพงเกิน 900 บาทต่อตัน จะยกเลิกโครงการทันที เพราะราคา 900 บาท ถือว่าเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้มีการประเมินราคาสูงถึง 1,000 บาทต่อตัน แต่ได้ขอให้ปรับลดลง” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
