เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดในเขตกรุงเทพมหานคร วางแนวทางแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดในกรุงเทพมหานครระยะยาว และสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายภาคประชาชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีผู้เข้าร่วม อาทิ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯ กทม. นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. นสพ.ศิวะ ไม้สนธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กทม. น.ส.ชลลดา เมฆราตรี (เก๋) ดาราและนักแสดง ในฐานะผู้ก่อตั้งมูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงของเรา) เครือข่าย มูลนิธิ องค์กรและกลุ่มคนรักสัตว์ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (ซอยด๊อก) เดอะโฮป ไทยแลนด์ เป็นต้น
นายทวีศักดิ์ เปิดเผยภายหลังประชุมว่า เนื่องจากได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดในเขตกรุงเทพฯ จึงมีการประชุมนัดแรกเพื่อแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดในพื้นที่
“ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีสุนัขประมาณ 580,000 ตัว ในจำนวนนี้ เป็นสุนัขจรจัดประมาณ 140,000-150,000 ตัว ซึ่ง กทม. มีพื้นที่รองรับสุนัขจรจัดเพียง 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พักพิงสุนัขประเวศ สามารถรองรับได้ 1,000 ตัว และศูนย์พักพิงสุนัขทัพทัน จ.อุทัยธานี สามารถรองรับได้ 8,000 ตัว ซึ่งพื้นที่รองรับไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงมีแนวทางการแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ในระยะยาว โดยการจัดทำทะเบียนสุนัขในชุมชน ซึ่งจะสามารถตัดวงจรแพร่กระจายจำนวนสุนัขได้ภายใน 1-2 ปี” นายทวีศักดิ์ กล่าว
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ของสุนัขชุมชน จดทะเบียนสุนัขและแมว จากนั้น กทม.และเครือข่ายกลุ่มคนรักสัตว์ จะร่วมกันทำหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมวให้ฟรีอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดทำป้ายหรือสัญลักษณ์ที่แสดงให้รู้ว่าสุนัขและแมวผ่านการทำหมันและฉีดวัคซีนมาแล้ว
“หากดำเนินการได้ตามขั้นตอนนี้ จะสามารถควบคุมจำนวนสุนัขและแมวจรจัดและสามารถสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขได้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ 50 สำนักงานเขต ประสานเครือข่ายกลุ่มคนรักสัตว์ ลงพื้นที่ชุมชน เพื่อทำหมันและฉีดวัคซีน ก่อนจดทะเบียนสุนัขและแมว โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการทำหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมวได้ สัปดาห์ละ 600 ตัว” นายทวีศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนสุนัขและแมวที่มีลักษณะดุร้ายหรือเป็นจ่าฝูง กทม.จะรับเข้ามาในระบบ เพื่อทำหมันและฉีดวัคซีน และสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการนำไปฝึก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นมิตรกับคนก่อนนำกลับสู่ชุมชนต่อไป นอกจากนี้ กรณีที่มีการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากสุนัขและแมว เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าสามารถทำความเข้าใจกันได้ จะมีหน่วยไกล่เกลี่ย ซึ่ง กทม.จะร่วมกับเครือข่ายกลุ่มคนรักสัตว์ เจรจา เพื่อให้สุนัขและแมวสามารถอยู่ร่วมกับประชาชนได้อย่างมีความสุข หากมีการร้องเรียนเรื่องสุนัขจรจัดหรือแมว กทม.พร้อมด้วยกลุ่มคนรักสัตว์จะร่วมกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือและแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อการแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวรและยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
