เมื่อวันที่ 8 มกราคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีอาคาร 4 ชั้นที่อยู่ระหว่างการรื้อถอน บริเวณถนนรามคำแหง ติดกับซอยรามคำแหง 51/2 เขตบางกะปิ ทรุดตัว จนทำให้มีเศษวัสดุตกหล่นใส่ประชาชนที่สัญจรผ่านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ว่าได้มอบหมายให้สำนักงานเขตบางกะปิ เร่งตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นทันที เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชน และจะต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกโดยเด็ดขาด
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาคาร 4 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ที่อยู่ระหว่างรื้อถอน ในแนวเวนคืนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อทำสถานีขึ้น-ลงใต้ดิน แต่ยังรื้อไม่เสร็จ ยังเหลือส่วนหน้าของอาคารที่อยู่ติดกับทางเท้าและถนนรามคำแหง ปรากฏว่าโครงสร้างเสาชั้น 3 ขาดหายไป ทำให้แผ่นพื้นโครงสร้างชั้นที่ 3 เลื่อนตัวลงมา และโครงสร้างชั้นอื่นๆ เอียงไปกระแทกกับผนังของอาคารธนาคารออมสินซึ่งอยู่ติดกันจนแตกร้าว และบางส่วนกระแทกกับแผงกั้นโครงการ ซึ่งสูงประมาณ 3 เมตร จนเอียงล้มไปทับแนวสายไฟ และมีเศษวัสดุตกหล่นใส่ประชาชนที่สัญจรผ่านจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง กทม.ได้สั่งระงับการรื้อถอนทันที พร้อมทั้งห้ามเข้า และห้ามใช้อาคารที่กำลังรื้อถอน รวมถึงธนาคารออมสินซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกัน และให้ทาง รฟม.จัดส่งวิศวกรเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานและขั้นตอนการรื้อถอนด้วย
“แม้พื้นที่ดังกล่าวจะเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบของ รฟม.แล้ว แต่ กทม.ในฐานะดูแลกรุงเทพมหานคร ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบว่าปัญหานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มีการป้องกันและวิธีรื้อถอนที่ถูกต้องตามมาตรฐานทางวิศวกรรมหรือไม่ แผงกั้นที่เป็นรั้วชั่วคราวมีความมั่นคงแข็งแรง และเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่ อะไรก็ตามที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนยิ่งต้องกวดขัน ตรวจสอบ และเพิ่มมาตรการให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพราะอันตรายมากๆ และจะต้องไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกโดยเด็ดขาดในทุกๆ โครงการ เพราะหากเกิดการบาดเจ็บและสูญเสียไม่คุ้ม” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
