จิตแพทย์เตือนพ่อแม่ ดูแลลูก อย่าไว้ใจคนใกล้ตัว หวั่นกรณีน้องโยโย่ กระทบจิตใจเด็ก

จากกรณีน้องโยโย่ (ขอสงวนชื่อจริง) อายุ 14 ปี หายตัวปริศนาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 กระทั่งทางญาติจับสัญญาณตำแหน่งที่อยู่ได้ที่ จ.ระยอง จึงเชื่อว่าน้องโยโย่ถูกลักพาตัวไป ต่อมาวันที่ 10 มกราคม 2562 ครอบครัวได้เดินทางเข้าร้องที่กองปราบฯ หลังน้องโยโย่หายไป 15 วัน ยังไม่ได้เบาะแสหรือข้อมูลที่ชัดเจน จนตำรวจไปพบตัวอยู่กับชายวัยกลางคนที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งพบว่าชายดังกล่าวเป็นพ่อของเพื่อนที่เรียนโรงเรียนเดียวกับน้องโยโย่  กระทั่งเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดปัญหาอะไรกับน้องหรือไม่

อ่านเพิ่มเติม

>สอบนาน 4 ชม. หนุ่มรุ่นพ่อรับพา ‘โยโย่’ ซ้อน จยย.จาก กทม.ขึ้นเชียงใหม่ แวะนอนพักรายทางก่อนถูกตามรวบ

>เจอแล้ว!! ตร.พบน้องโยโย่แล้ว โผล่ที่เชียงใหม่ หลังล่องหนนานกว่าครึ่งเดือน

Advertisement

>แม่ ‘น้องโยโย่’ ไม่สนคำครหาลูกหนีตามผู้ชาย ขอแค่ปลอดภัยกลับมา เชื่อหมดใจถูกล่อลวง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคม  พญ. มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล   กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ประเด็นที่เด็กออกจากบ้านไปนั้นต้องพิจารณาหลายๆอย่าง อย่างการที่เด็กมักมองพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นปรปักษ์ หรือ คู่ขัดแย้ง เป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่น ที่ต้องต่อต้านพ่อแม่ เช่น บอกให้ไปซ้ายก็กลับไปขวา เป็นความรู้สึกของการต่อต้าน   อีกทั้งปัจจุบันเด็กโตเป็นวัยรุ่นเร็วว่า ร่างกายเติบโตแต่จิตใจยังเป็นเด็กขาดความยั้งคิด   ทางออกของปัญหาเมื่อเด็กรู้สึกต่อต้านพ่อแม่ หรือผู้ปกครองคนในครอบครัว พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกต เช่น เงียบผิดปกติ ไม่พูดไม่คุย หรือแม้แต่เพื่อนสนิทก็ไม่คุยไปหาด้วย  พ่อแม่ยุคใหม่ ต้องรู้จักตีสนิทกับเพื่อนลูก   ค่อยเข้าไปสืบถามพฤติกรรมของลูกจากเพื่อน  เพื่อป้องกันความคิดนอกลู่ นอกทาง

พญ.มธุรดา กล่าวว่า  ส่วนประเด็กการไว้วางใจคนใกล้ตัว  ต้องรู้จักสอนลูกให้รู้จักปฏิเสธ เมื่อถูกชักชวน ไปในทางที่ไม่ควร  แม้แต่ที่สนิทหรือไว้วางใจ หากชักชวนในทางที่ไม่ควรก็ต้องไม่ทำตาม และสอนลูกให้รู้จักการอยู่เป็นกลุ่มเพื่อน จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด   ขณะเดียวกันการฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบเป็นเรื่องดี ในการทำงานบ้าน เลี้ยงน้อง ถูกบ้าน แต่ว่า อย่าลืมชมเชยยกย่อง ไม่ใช่แค่เก่ง แต่เป็นชื่นชมในความพยายามของเด็กที่ทำงาน ช่วยเหลือ    การฝึกให้ให้มีความรับผิดชอบ ต้องไม่เป็นการบังคับ หรือทำให้เด็กคิดว่า อึดอัด  เพราะท้ายที่สุดเด็กจะต้านไม่อยากทำ

Advertisement

พญ. มธุรดา ขณะเดียวกันก็ห่วงว่า เรื่องของเด็กวัย 14 ปี นี้ ท้ายที่สุด จะส่งผลให้กระทบหลายฝ่าย ทั้งครอยครัวเด็กหญิงวัย 14 ปี รวมถึงครอบครัวของฝ่ายชายทีมีฐานะเป็นพ่อของเพื่อน เพราะท้ายที่สุด อาจทำให้เด็กทั้ง 2 คน ไม่สามารถเรียนโรงเรียนเดียวกันได้อีก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image