‘หมอล็อต’ ลุ้นช่วยชีวิต แร้งหิมาลัยพลัดหลง ชี้ขาดประสบการณ์-อากาศเปลี่ยน

เมื่อวันที่ 23 มกราคม นสพ.ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการช่วยชีวิตแร้งหิมาลัยพลัดหลงว่า “ลุกแล้ว ลุก Skywalker” ลุ้นกันตัวโก่ง กับการดูแลนกแร้งหิมาลัยอพยพที่บาดเจ็บและพลัดหลงอย่างใกล้ชิดของกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่าและกลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่าและกลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า ได้รับแจ้งทางสายด่วน 1362 ว่าพบนกแร้งพลัดหลง ร่างกายอ่อนแรง อยู่ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 3 หนองแขม เขตบางแค เมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยนายวรพจน์ แสงเทียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางขุนนนท์ ประเมินว่า แร้งมีอาการคอตก บินไม่ได้ อ่อนแรง โคนจงอยปากมีสีเขียวคล้ำ ตาพร่ามัว หายใจแผ่วเบา จึงได้รีบเร่งนำนกแร้งมามอบที่ฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า เพื่อช่วยเหลือชีวิต

นสพ.ภัทรพลระบุว่า ทั้งนี้ ปัจจัยร่วมสำคัญที่ทำให้แร้งพลัดหลงนั้น ประกอบไปด้วย 1.ปัจจัยเรื่องอายุ แร้งตัวนี้อายุประมาณ 5-7 ปี กำลังเข้าสู่ระยะโตเต็มวัย เรื่องประสบการณ์ในการบินอพยพ อาจมีไม่มาก พลัดหลง 2.ปัจจัยเรื่องอาหาร จากการตรวจสุขภาพทางห้องปฏิบัติการ พบว่า เกิดภาวะโลหิตจาง ค่าตับสูงและโปรตีนในเลือดต่ำ คาดว่าเกิดจากการอดอาหารเป็นเวลานานและมีการใช้กำลังของกล้ามเนื้อมากเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับเส้นทางการบินอพยพของแร้ง ที่ผ่านมานั้นไม่มีแหล่งอาหาร เช่น ซากสัตว์ เป็นต้น และ 3. ปัจจัยด้านสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อาจส่งผลต่อเส้นทางการบินอพยพและสุขภาพ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ตัวที่โตเต็มวัยหรือมีประสบการณ์ในการบินอพยพก็จะบินหลีกเลี่ยงพื้นที่มลพิษ

นสพ.ภัทรพลกล่าวต่อว่า กลุ่มงานสุขภาพสัตว์ป่า สันนิษฐานว่า น่าจะบินพลัดหลงมาเจอสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม ทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา อาการโคม่า เจ้าหน้าที่เวรได้ให้น้ำเกลือเข้าใต้ผิวหนังและทำการกกไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและให้อยู่ในพื้นที่อากาศถ่ายเท จากนั้นสัตวแพทย์ประจำคลินิกสัตว์ป่า ได้ให้น้ำเกลือเข้าเส้นและฉีดยาบำรุงให้แก่สัตว์ และได้ทำการเจาะเลือดส่งตรวจ ณ ห้องปฏิบัติการ และวัดระดับของออกซิเจนในกระแสเลือด โดยใช้เครื่อง pluse oximeter พบว่านกแร้งสามารถยืนและเริ่มกินเนื้อหมูเองได้ ต่อมา

Advertisement

“เมื่อวันที่ 22 มกราคม ช่วงเช้าได้ให้สารน้ำ วิตามิน ทางเส้นเลือด และกินซี่โครงไก่ นกแร้งสามารถจิก ฉีก เนื้อกินได้เองตามปกติ ปริมาณออกชิเจนในเลือดอยู่ในระดับปกติ ล่าสุดวันนี้
ถึงแม้ว่าแร้งจะลุกขึ้นยืนได้ กินอาหารได้เองแล้ว ทางกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและประสานงานการดูแลร่วมกันกับศูนย์ฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (กำแพงแสน) โดยขอให้ร่วมกันติดตามและให้กำลังใจ เจ้าลูก Skywalker แร้งหิมาลัยตัวนี้และเจ้าหน้าที่ ฝุ่น PM2.5 นั้น เป็นปัจจัยร่วม #SurvivalTogether” นสพ.ภัทรพลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image