เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานประชุม “การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดปริมณฑล ประกอบด้วย สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมการขนส่งทางบก กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมโรงงานอุตสาหกรรม องค์การขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้าร่วม
จากนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ แถลงว่า รัฐบาลห่วงใยกับสถานการณ์มลพิษทางอากาศ หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันฝุ่นละอองดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 โดยแบ่งขั้นตอนการดำเนินงาน เป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ การเตรียมการ การปฏิบัติการ และการฟื้นฟู แต่ในช่วงเดือนต้นมกราคม เนื่องจากมีสภาพอากาศปิด ค่าฝุ่นละอองจึงไม่คงที่ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยการเพิ่มความถี่การฉีดพ่นละอองน้ำ ทำความสะอาดผิวจราจร ตรวจจับรถยนต์ควันดำอย่างเข้มงวด บังคับใช้กฎหมายโดยห้ามรถเมล์ควันดำวิ่งบนถนน เริ่มใช้น้ำมันดีเซล B20 เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ สำหรับรถขนส่งขนาดใหญ่ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ปั๊ม ปตท. และปั๊มบางจาก จะเปิดให้บริการน้ำมันดีเซล B20 เพื่อเป็นการช่วยลดมลพิษทางอากาศ
พล.อ.สุรศักดิ์ แถลงอีกว่า ทส.ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ในเวลา 10.00 น. เพื่อจะหารือเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนที่ได้ดำเนินการอยู่ขณะนี้ว่าเพียงพอหรือไม่ ส่วนในระยะกลางมีแผนที่จะปรับค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ซึ่งปัจจุบันมาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) มีเป้าหมายกำหนดมาตรฐานค่าฝุ่น PM2.5 ไม่เกิน 25 มคก./ลบ.ม. ตามที่องค์การอนามัยโลก กำหนด
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน แถลงว่า วันนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) จะประกาศการควบคุมมลพิษทางอากาศของกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสำรวจพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกิน 50 มคก./ลบ.ม. ทั้ง 50 เขต เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป รวมถึงยังได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและแก้ไขมลพิษในอากาศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมควบคุมและดำเนินการ เพื่อชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนให้ประชาชนรับทราบ
