‘บิ๊กอู๋’ สั่งกรมจัดหางานตรวจสอบดำเนินคดีแก๊งตุ๋นไปเก็บผลไม้ป่า ‘สวีเดน-ฟินแลนด์’

วันนี้ (31 มกราคม) นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ชักชวนแรงงานไทยไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ โดยโพสต์โฆษณารายได้เกินจริงผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีรายได้ถึง 70,000 – 85,000 บาท ซึ่งพบว่ามีแรงงานไทยหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้ กกจ.เร่งตรวจสอบและประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนคนหางาน

“ดังนั้น เพื่อมิให้แรงงานไทยหลงเชื่อคำชักชวนเกินจริงดังกล่าว กกจ.จึงขอแจ้งให้ทราบว่า การไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดนและฟินแลนด์นั้น แรงงานจะมีรายได้จริงประมาณเดือนละ 1,000 – 1,200 ยูโร หรือประมาณ 39,000 – 46,800 บาท และก่อนเดินทางไปทำงาน แรงงานจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกประมาณ 60,000-70,000 บาทต่อคน เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เป็นต้น และขณะนี้ยังไม่ได้เปิดรับแรงงานแต่อย่างใด เนื่องจากฤดูกาลเก็บผลไม้ป่าในประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ จะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ของทุกปี จึงอย่าหลงเชื่อผู้ที่ชักชวนไปทำงานเก็บผลไม้ป่าดังกล่าว และขอให้แรงงานไทยศึกษาข้อมูลการทำงานให้รอบคอบกับ กกจ.ก่อนตัดสินใจเดินทาง” นางเพชรรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นางเพชรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 เฝ้าระวัง คุมเข้ม ตรวจสอบและสกัดกั้น เพื่อคุ้มครองคนหางานที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศไม่ให้ถูกหลอกลวงจากสาย/นายหน้าเถื่อน รวมทั้งได้ตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีพฤติกรรมในการโฆษณาชักชวนคนหางานไปทำงานต่างประเทศผ่านสายตรวจออนไลน์อย่างเข้มงวด ซึ่งแรงงานไทยที่ถูกหลอกลวงสามารถแจ้งความหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือ โทร.สายด่วน 1506 กด 2

นางเพชรรัตน์ กล่าวว่า กรณีที่มีการโฆษณาการจัดหางานให้คนหางานไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์ โดยการโฆษณาจัดหางานไม่เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ต้องโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีที่มีผู้มาร้องทุกข์ว่าถูกหลอกลวงไปทำงานเก็บผลไม้ป่า และพนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิด จะมีความผิดฐานหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Advertisement

นางเพชรรัตน์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2561 มีคนหางานมาร้องทุกข์กับ กกจ. กรณีถูกสาย/นายหน้าจัดหางานเถื่อนหลอก จำนวน 123 ราย โดยส่วนใหญ่ถูกหลอกไปทำงานประเทศเกาหลีใต้มากที่สุด รองลงมาเป็นญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิตาลี และนิวซีแลนด์ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับสาย/นายหน้าเถื่อนดังกล่าวแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image