เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงแรงงาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ ซึ่ง 9 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานประกันสังคม กรมสวัดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต กรมอนามัย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน บูรณาการทำงานร่วมกัน
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศมีประชากรกว่า 66 ล้านคน ในจำนวนนี้อยู่ในวัยแรงงาน 38 ล้านคน ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้ผู้ใช้แรงงานได้รับการคุ้มครองด้านสวัสดิการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาลการเจ็บป่วย ชราภาพ การหยุดงาน ที่สำคัญคือ ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่เท่าเทียมกัน
“สำหรับในกลุ่มที่ใช้สิทธิประกันสังคมนั้น ปัจจุบันมีผู้ประกันตน 16 ล้านคน มีสิทธิตรวจสุขภาพ 13 ล้านคน จึงได้จัดทำโครงการประชารัฐร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 1,100 แห่ง ดำเนินโครงการตรวจสุขภาพให้กับผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการ โดยจะมีการตรวจสุขภาพ จำนวน 14 รายการ นำผู้ประกอบการ โรงพยาบาลรัฐ ละโรงพยาบาลเอกชนมาร่วมกันวางแผนให้ผู้ใช้แรงงานได้มีการตรวจสุขภาพอย่างครบถ้วน ขณะเดียวกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่มีแรงงาน 200 คนขึ้นไป ตั้งคลินิกในสถานประกอบการ มีแพทย์และพยาบาลประจำเพื่อส่งเสริมสวัสดิการด้านสุขภาพ และมีการจัดสิ่งแวดล้อมให้มีความปลอดภัยเอื้อต่อการทำงานให้มากขึ้น” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวและว่า ที่ผ่านมา มีผู้ประกันตนจำนวนน้อยมากไปรับบริการตรวจสุขภาพ โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกันตนเข้ารับการตรวจสุขภาพมากขึ้น
นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาสุขภาพคนวัยทำงานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ กรมอนามัย และเครือข่าย จึงพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพอนามัยคนวัยทำงานด้วยชุดความรู้สุขภาพ 10 เรื่อง เพื่อให้คนวัยทำงานมีสุขภาพและคุณภาพที่ดีจากการทำงาน และลดพฤติกรรมทางสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ต่อการเกิดโรคเรื้อรัง และโรคจากการประกอบอาชีพ
