สสส. พลังมดชวนพ่อแม่ ละ เลิก เหล้า ‘ของขวัญ’ ยิ่งใหญ่ที่พ่อแม่จะมีให้ลูกในปีนี้

จุดเริ่มต้นของผู้ที่เลิกเหล้าสำเร็จ จากข้อมูลพบส่วนใหญ่มักจะยึดโยงช่วงเวลาสำคัญทั้งเทศกาลขึ้นปีใหม่ ช่วงเข้าพรรษา หรือโอกาสสำคัญในวันเกิด เลิกเหล้าเพื่อครอบครัวและลูก โดยการเสริมสร้างกำลังใจจากคนภายในครอบครัว นับเป็นพลังสำคัญ หรือ พลังมด ทำให้การเลิกเหล้านั้นประสบความสำเร็จ

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรลดเหล้า ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์ (1413) จับมือกับสำนักการศึกษาและสำนักอนามัย ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดโครงการรณรงค์ พลังมดชวนพ่อแม่ ละ เลิก เหล้า โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทย เสริมสร้างสุขภาวะที่ดี เริ่มตั้งแต่ระดับครอบครัวเพื่อลดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาสุขภาพ ปัญหาเศรษฐกิจ และเพื่อให้พ่อแม่เป็นต้นแบบที่ดีในการลด ละ เลิกดื่มสุรา รวมทั้งเพื่อให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกัน ไม่กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ในอนาคตภายหน้า

นายเกรียงไกร จงเจริญ

นายเกรียงไกร จงเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวว่า ครอบครัวแม้เป็นสถาบันที่เล็กที่สุด กลับเป็นสถาบันที่ยิ่งใหญ่ รากฐานสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของคนในสังคมและผลิตประชากรที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า ซึ่งพ่อแม่ถือเป็นตัวอย่าง ผู้นำ แบบฉบับและไอดอลของบุตรหลาน และหากคนในครอบครัวติดสุรา ย่อมก่อให้เกิดปัญหาตามมา กทม.จึงจับมือกับ สสส.และภาคีเครือข่ายร่วมกิจกรรมรณรงค์พลังมด ชวนพ่อแม่ ละ เลิก เหล้า ขณะที่โรงเรียนระดับประถมศึกษาของ กทม.ที่มีอยู่จำนวน 431 แห่ง ซึ่งมีเด็กเป็นพลังมดร่วม 300,000 คน จะสามารถชวนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ลด ละ เลิก เหล้า และทำให้โครงการประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ

น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า โครงการพลังมดจัดขึ้นต่อเนื่องมากว่า 10 ปี โดยเด็กเป็นจุดเริ่มต้นทำให้พ่อแม่ลด ละ เลิก เหล้าได้จริง ส่งผลให้ครอบครัวกลับมาอบอุ่นขึ้นและช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเด็กและเยาวชน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตจะลดการเข้าสู่วงจรการดื่มสุราและนักดื่มหน้าใหม่ เป็นการจัดกิจกรรมรณรงค์กับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 จะเริ่มนำร่องในโรงเรียนสังกัด กทม. 10 แห่ง ผ่านกิจกรรมรณรงค์รูปแบบโรดโชว์ ภายในมีการแสดงละคร เล่นเกม เขียนการ์ดข้อความ ระบายสีการ์ตูน เพื่อให้เด็กเป็นพลังมดนำความรู้และสื่อรณรงค์กลับไปชวน ช่วยเชียร์พ่อแม่ให้เลิกเหล้า โดยพบว่าช่วงวัย ป.1-ป.2 จะเป็นช่วงวัยสำคัญในการจูงใจพ่อแม่ให้สำเร็จ ส่วนถ้อยคำ หรือคำพูดที่เด็กจะนำไปบอกต่อพ่อแม่นั้น มีหลากหลายวิธีคำพูด ทั้งวิธีการขอร้อง เช่น เลิกเหล้าเป็นของขวัญวันเกิดลูกได้หรือไม่ ทำเพื่อลูกได้หรือไม่ เป็นต้น

Advertisement

น.ส.รุ่งอรุณ กล่าวว่า สถานการณ์การดื่มของคนไทย ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ปัจจุบันคนไทยดื่มประมาณ 15.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 28.4 กลุ่มวัยที่น่ากังวลพบช่วงอายุระหว่าง 15-19 ปี พบการดื่มถึง 620,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สาเหตุหลักจากวัยอยากรู้ อยากลอง จนลืมคำนึงว่าสุรานั้นมีการผสมยาเสพติดแบบอ่อน หรือที่เรียกว่า แอลกอฮอล์ ทำให้การดื่มแบบครั้งคราวอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเพิ่มความถี่จะทำให้เกิดพฤติกรรมติดสุรา ต่อมาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและสังคมรอบข้าง รวมถึงอิทธิพลทางการตลาดผ่านการใช้สื่อสังคมออนไลน์เชิงรุก ขณะเดียวกันข้อมูลภาวะสังคมไทยของสำนักคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบคนไทยสูญเสียค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 140,000 กว่าล้านบาท/ปี

ตัวอย่างความสำเร็จของพลังมด นายสุทิน กรีโรจณี หรือ ลุงเด้ง อายุ 59 ปี บอกเล่าประสบการณ์เลิกเหล้า ว่า เริ่มติดเหล้าตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์ แต่ละวันเมื่อมีรายได้จากการขี่วินจักรยานยนต์จะนำเงินไปซื้อเหล้า เมาหัวราน้ำทุกวัน แต่จุดเปลี่ยนเลิกเหล้าเมื่ออ่านเรียงความของลูกสาว เธอเขียนว่า ไม่อยากอยู่บ้าน เพราะพ่อติดเหล้า มึนเมาสุราและมักทะเลาะกับแม่ทุกวัน ข้อความดังกล่าวทำให้รู้สึกเสียใจมากที่ทำตัวเป็นพ่อที่ไม่ดี เพราะขณะดื่มเหล้ามักไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัวเพราะนำไปซื้อเหล้าจนหมด ต่อมาจึงตัดสินหยุด แต่ไม่ได้เลิกทันที ค่อยลด ละ โดยขังตัวเองในห้องถึง 7 วันเพื่อลดความอยาก โดยมีมูลนิธิชายหญิงก้าวไกลเข้ามาให้คำปรึกษาและดูแลในการเลิกเหล้า

Advertisement

“ตั้งแต่เลิกเหล้าสิ่งที่เห็นได้ชัด ครอบครัวอบอุ่นมากขึ้น สุขภาพร่างกายตนเองแข็งแรงขึ้น หน้าตาสดใสเห็นได้ชัด โดยมองว่าการเลิกเหล้าเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ลูกและครอบครัวมีความสุข” ลุงเด้งบอก

นายนพรัตน์ ข้ามสมุทร

ส่วน นายนพรัตน์ ข้ามสมุทร หรือ บอม อายุ 45 ปี คนทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิง และกรรมการผู้จัดการบริษัท บอร์น ทู บี โปรดักชั่น จำกัด เล่าว่า ติดเหล้ามาตั้งแต่สมัยเรียน โดยเฉพาะอาชีพทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิง ต้องปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ต้องพูดคุยธุรกิจใช้เวลาช่วงกลางคืนหลังเลิกงาน ส่วนใหญ่มักอาศัยการเจรจาธุรกิจบนโต๊ะเหล้าเพื่อให้การพูดคุยราบรื่น โดยการดื่มแต่ละครั้งจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาท เมื่อคำนวณตลอดเวลา 20 ปีคิดเป็นเงินมหาศาล และด้วยงานที่หนักและมีเวลาน้อยอยู่แล้ว ทำให้การดื่มแต่ละครั้งไม่มีเวลาให้กับครอบครัว

นายนพรัตน์ กล่าวว่า สาเหตุการเลิกเหล้าเกิดขึ้นหลังจากภรรยาคลอดบุตรคนที่ 2 ทำให้รู้ว่าตนเองทำหน้าที่พ่อบกพร่อง เพราะแม้แต่ลูกคนแรกที่เกิดมา คนเป็นพ่อยังไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าลูกเริ่มเดิน เริ่มคลานตอนไหนและมีพัฒนาการอย่างไร เมื่อมีลูกคนที่ 2 ซึ่งเป็นลูกสาว ทำให้ได้ทบทวนตัวเอง เพราะเมื่อลูกสาวบอกกับตนเองว่า ไม่อยากใกล้พ่อ ไม่อยากกอดพ่อ เพราะเหม็นเหล้า คำพูดดังกล่าวจึงเป็นสิ่งเดียวทำให้ตัดสินใจเลิกเหล้าเด็ดขาด ด้วยแรงผลักของลูกทำให้พ่ออยากเปลี่ยนอ้อมกอดนี้ให้อบอุ่น ไม่มีกลิ่นเหล้าอีก ซึ่งคำพูดว่าจะเลิกเหล้านั้น ไม่สำคัญเท่ากับการแสดงออกของพ่อต่อลูก

“ผลพลอยได้จากการเลิกเหล้า สิ่งแรกได้กอดลูกอย่างอบอุ่น สุขภาพดีขึ้น พฤติกรรมการตื่นนอนดีขึ้น ทำงานมีสติ มีการตัดสินใจในการทำงานได้อย่างเฉียบขาดและชัดเจน ตอนนี้เลิกเหล้ามาแล้ว 7 ปี การเลิกเหล้าไม่ได้ทำให้เลิกคบเพื่อน ยังคงมีสังคมเพื่อนเหมือนเดิม ช่วงแรกเพื่อนฝูงแปลกใจ แต่เมื่อเราแน่วแน่ที่จะเลิกเหล้าอย่างเด็ดขาด เพื่อนก็ยังมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปด้วย ลดการดื่มลง ดื่มเป็นเวลาจากเดิมดื่มแบบไม่เลิกรา” นายนพรัตน์กล่าว

พลังมดหลายหลังจะกลายเป็นพลังยิ่งใหญ่ ช่วยเชียร์ให้การลด ละ เลิกเหล้าของพ่อแม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งพลังมดอยากให้พ่อแม่เลิกเหล้าสู่ชีวิตใหม่ และเป็นของขวัญที่มีค่าอย่างยิ่งแก่ลูกๆ ในปี 2562 นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image