คพ.แจงสถานการณ์หมอกควัน 9 จว.ภาคเหนือ ฝุ่นพิษยังปกคลุมหลายพื้นที่

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแล้วสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือว่า ช่วงเวลา 09.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อวันที่ 2 มีนาคม คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ดี มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง 8 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง) พื้นที่สีส้ม 6 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) พื้นที่สีเขียว 2 พื้นที่ (คุณภาพอากาศดี) และพื้นที่สีแดง 1 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) บริเวณ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เฉลี่ย 31-94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มลก./ลบ.ม.) สูงกว่ามาตรฐานที่ต้องไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. หลายพื้นที่ นอจากนี้ ค่าฝุ่นขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เฉลี่ย 49–108 มลก./ลบ.ม. ยังไม่เกินมาตรฐานที่ระบุว่าต้องไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม. โดยสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพพลิเคชั่น air4thai

นายประลองกล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เข้าบัญชาการเหตุการณ์ในการดับเพลิงไหม้หญ้าแห้งกลางทุ่งนาที่รกร้างในพื้นที่ หมู่ 2 ต.เวียงยอง ลุกลามไปยังพื้นที่หมู่ 4 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน มีพื้นที่เสียหายประมาณ 200 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวติดกับศูนย์ราชการกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.เมืองลำพูน โดยร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระดมรถดับเพลิงจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน จำนวน 7 หน่วยงาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่และข้างเคียง จำนวน 13 แห่ง รวมทั้งสิ้น 20 คัน เข้าระงับเหตุ ทั้งนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลาประมาณ 14.30 น.

Advertisement

“ส่วนที่ จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงกรณีเกิดจุดความร้อนในพื้นที่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้ระดมอาสาสมัครเข้าร่วมกันดับไฟ แต่เนื่องจากอยู่ในป่า มีวัชพืชขึ้นรก รถบรรทุกน้ำไม่สามารถเข้าถึง จึงต้องใช้ถังสะพายหลังเข้าไปดับไฟ โดยสามารถดับไฟได้ภายในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง มีพื้นที่ป่าเสียหายประมาณ 23 ไร่ และในเวลา 08.40 น. หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูชี้ฟ้า พร้อมเจ้าหน้าที่สถานีฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว และทหารชุดปฏิบัติการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ร่วมกันสกัดกั้นไฟจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้ไฟลามเข้ามายังฝั่งประเทศไทยจนแล้วเสร็จเวลา 11.30 น. พบว่าไม่มีพื้นที่เสียหายในฝั่งไทยแต่อย่างใด” นายประลองกล่าว

Advertisement

นอกจากนี้ นายประลองกล่าวว่า ในส่วน จ.เชียงใหม่ ยังคงนำรถบรรทุกน้ำฉีดล้างถนนและพ่นละอองน้ำในอากาศเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก และหมอกควันในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สถานีควบคุมไฟป่าจอมทอง สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ และสถานีควบคุมไฟป่าอมก๋อย เฝ้าระวังและลาดตระเวนตรวจหาไฟป่า โดยตรวจพบไฟป่าบริเวณบ้านห้วยตาด หมู่ 8 ดงป่าป๋วย หมู่ 2 และบ้านหย่อมบ้านปิสลง หมู่ 2 อ.อมก๋อย จึงดำเนินการดับไฟจนแล้วเสร็จ คาดว่าสาเหตุมาจากการเผาเพื่อหาของป่า ส่วนในพื้นที่ ต.แม่เหียะ เกิดไฟป่าบริเวณหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ หมู่ที่ 3 มีพื้นที่ป่าเสียหายประมาณ 2 ไร่ เจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่าเคลื่อนที่แม่เหียะ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ร่วมกันดับไฟจนดับสนิทในเวลา 14.20 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image