วันนี้ (18 พฤษภาคม) ที่กระทรวงแรงงาน นายจีซัส มิเกล แซนด์ (Mr.Jesus Miguel Sanz) เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย นำคณะผู้แทนอียูประจำประเทศไทยและสมาชิกรัฐสภายุโรป เข้าพบ ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อติดตามความคืบหน้าแนวทางการแก้ปัญหาแรงงานในภาคประมงของประเทศไทย
ม.ล.ปุณฑริก กล่าวว่า คณะทูตและสมาชิกรัฐสภายุโรปได้สอบถามถึงแนวทางการดูแลและคุ้มครองสิทธิแรงงานต่างด้าวทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายของไทย โดยคณะผู้แทนได้แสดงความเป็นห่วงถึงการออกกฎหมายดูแลแรงงานและความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายของไทย ซึ่งได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ไทยมีกฎหมายหลายฉบับที่ออกมาเพื่อคุ้มครองแรงงาน ทั้งแรงงานไทย แรงงานต่างด้าวทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย การออกกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างร่วมกับอีก 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.) และกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)แรงงานประมง พ.ศ. … เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาของอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ไอแอลโอ) ฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคประมง พ.ศ.2550 ทั้งนี้การออกกฎหมายดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาเนื่องจากมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ผู้แทนอียูยังได้สอบถามถึงความคืบหน้าการรับอนุสัญญาไอแอลโอฉบับที่ 87 และ 98 ว่าด้วยสิทธิการรวมตัวและเจรจาต่อรอง ซึ่งได้ชี้แจงว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเนื้อหาของอนุสัญญาและทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดรับกัน เนื่องจากการจะรับอนุสัญญาทุกฉบับของไอแอลโอนั้นไทยจะต้องมีกฎหมายรองรับก่อน ทั้งนี้ ผู้แทนอียูมีความเข้าใจและพอใจกับการออกกฎหมายคุ้มครองและดูแลแรงงานของไทย” ม.ล.ปุณฑริก กล่าว
