สบส.พบปลอมใบหมอนวด ด้านมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคจี้เอาผิดสมาคมฯทำการนวดเสียหาย

จากกรณีผู้ประกอบการร้านนวด นำโดยนางชาลิดา ศิริธนาบุญ ได้ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่ามีหมอนวดจำนวนมากที่จบจากสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทยไม่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นหมอนวดได้ ต่อมากรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาชี้แจงเหตุผลเป็นเพราะพบว่ามีการเปิดสาขา ขยายเฟรนไชส์ และซื้อขายใบรับรองการเรียนนวด จึงได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศระงับการขึ้นทะเบียนหมอนวดจากสมาคมดังกล่าว

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม  นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สบส. กล่าวว่า หลังจากที่ สบส.ทำหนังสือระงับการขึ้นทะเบียนหมอนวดไปแล้วนั้น พบพฤติกรรมการที่พยายามขึ้นทะเบียนในรูปแบบต่างๆ เช่น การปรับแก้ไขหนังสือรับรองการเรียนการสอน แต่เราก็ตรวจสอบอย่างละเอียดจนพบความผิดปกติ พอเขามาขึ้นทะเบียนไม่ได้ ก็เปลี่ยนมาส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ โดยพบว่ามีการเขียนเอกสารคำร้องเป็นรูปแบบเดียวกัน มีการใช้ถ้อยคำลักษณะคล้ายคลึงกัน ยกข้อกฎหมายต่างๆ มา แต่เนื่องเรียนว่า สบส.ไม่มีแนวทางการรับขึ้นทะเบียนทางไปรษณีย์แต่อย่างใด

“ล่าสุดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผานมา พนักงานเจ้าหน้าที่ของเราลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานร้านนวดตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งดำเนินการกันเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งตอนนั้นมีการเรียกตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพนวดว่ามีหรือไม่ ก็หมอนวดบางร้าน ได้ยื่นหนังสือรับรองเอกสารที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนของ สบส. หรือจะเรียกว่าเป็นใบเหลืองที่เราออกให้ก่อนออกใบอนุญาตขึ้นทะเบียนหมอนวดตัวจริงให้ ก็พบเป็นเอกสารปลอม มีการปลอมลายเซ็นของเจ้าพนักงาน คนที่ลงไปตรวจสอบพอดี เราเจอมา 3 เคส คือที่กรุงเทพฯ จังหวัดสุพรรณบุรี สมุทรปราการ เขารู้ว่าเราสั่งห้ามขึ้นทะเบียนคนที่มีใบรับรองจากสมาคมฯ นี้ ก็เลยปลอมเอกสารนี้ขึ้นมา ขณะนี้เรียกสอบข้อมูล อยู่ระหว่างแจ้งความดำเนินคดีข้อหาปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ และต้องมีการขยายผลแน่นอนหากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างก็สามารถเอาผิดได้” นพ.ภัทรพลกล่าว

ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ตนสนับสนุนการดำเนินการของ ผอ.กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ออกมาทำเรื่องนี้ เพราะพฤติกรรมการสอนนวดแบบนี้เหมือนทำให้แพทย์แผนไทยตกต่ำลง มีปัญหาเรื่องคุณภาพของหมอนวด ซึ่งก็จะเห็นว่ามีข่าวนวดแล้วเสียชีวิตก็มี จึงควรเปิดเผยรายชื่อร้านนวดที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ประชาชนที่จะไปรับบริการนวดได้ตรวจสอบว่าจบจากโรงเรียนสอนนวดที่ได้รับการรับรองหรือไม่ จึงสนับสนุนสิ่งที่ สบส.ทำอยู่ แต่ไม่ใช่ทำแค่นี้ เมื่อเห็นแล้วว่ามีการขยายสาขา ขยายเฟรนไชส์ก็ต้องดำเนินการสั่งปิด นอกจากนี้ ยังมีพยานหลักฐานครบเช่นนี้ก็ควรรวบรวมกลุ่มหมอนวดที่เสียหายแล้วสิ่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการต่อ ไม่ใช่บอกว่าให้เป็นหน้าที่ของหมอนวดที่ได้รับความเสียหายไปร้องตำรวจกันเอาเอง

Advertisement

 

 

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image