30องค์กรจี้ ‘ผู้ว่าฯกทม.’ ตั้ง ‘กองทุนเพื่อเด็กและเยาวชน’

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ศาลาว่าการ กทม. นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ แกนนำเครือข่ายคนทำงานด้านเด็กและเยาวชน 30 องค์กร อาทิ เครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยงทางสังคม เครือข่ายบางกอกดีจัง เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง ฯลฯ เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดตั้งกองทุนเพื่อเด็กและเยาวชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากปัจจัยเสี่ยงทางสังคม ต่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. โดยมี นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม.รับหนังสือแทน

นายสุรนาถ กล่าวว่า เครือข่ายมีข้อเสนอให้พิจารณา 1.ให้ความสำคัญกับปัญหาปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน และบูรณาการการทำงานกับโรงเรียนในสังกัด 437 แห่ง โดยเปิดพื้นที่ให้องค์กรภาคประชาชนมีส่วนร่วมและเข้าไปสนับสนุนการทำงาน 2.มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเยาวชนกลุ่มเสี่ยง เยาวชนนอกระบบการศึกษา สนับสนุนการรวมกลุ่มในการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ต่อเนื่อง 3.เร่งจัดตั้ง “กองทุนเพื่อเด็กและเยาวชน” เพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มในทางสร้างสรรค์ โดยขอให้เป็นกองทุนอิสระเข้าถึงง่าย ไม่ให้ระบบราชการมาเป็นข้อจำกัดในการทำงาน

นายวันชัย พูลช่วย ผู้ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เครือข่ายได้มีเวทีส่งสัญญาณไปยังพรรคการเมืองเรียกร้องให้มีนโยบายแก้ปัญหาของเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง รวมถึงนโยบายการจัดตั้งกองทุนเพื่อเด็กและเยาวชน แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลหรือมีท่าทีใดๆ จากพรรคการเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่มาก เช่น การคุกคามทางเพศ ท้องก่อนวัยอันควร ปัญหายาเสพติด ติดการพนัน นักดื่มหน้าใหม่ อุบัติเหตุบนท้องถนน การใช้สื่อโซเชียลมีเดียและปัญหาพื้นที่เสี่ยง เป็นต้น

Advertisement

นายวันชัย กล่าวว่า สำหรับภาพรวมทั้งประเทศ พบว่าเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี กว่า 30,000-50,000 คนต่อปี ก่อคดีเข้าสู่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร้อยละ 50 เป็นคดียาเสพติด และเกือบหมื่นคนต่อปีต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน, ติดยาเสพติดมากกว่า 300,000 คนต่อปี, มีนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 250,000 คนต่อปี, เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุเฉลี่ยปีละ 2,510 ราย บาดเจ็บและพิการอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบเล่นพนัน 3.6 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้ยอมรับว่าติดพนัน กว่า 400,000 คน, ปัญหาความรุนแรงทางเพศในเด็กและเยาวชนอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง ซึ่งช่วงอายุของผู้ถูกกระทำร้อยละ 60.6 เป็นกลุ่มอายุ 5-20 ปี อายุน้อยที่สุดเป็นเด็กหญิง 5 ขวบ ถูกข่มขืน ผู้ก่อเหตุกว่าครึ่งเป็นคนรู้จักคุ้นเคยหรือบุคคลในครอบครัว

“อีกปัญหาที่น่าเป็นห่วงในยุคนี้ พบว่าเด็กอายุ 8-12 ปี ใช้เวลากับหน้าจอ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ร้อยละ 73 คือ สมาร์ทโฟน โดยเป็นการเข้าถึงสื่อลามกและพูดคุยเรื่องเพศกับคนแปลกหน้า ร้อยละ 19 ติดเกม ร้อยละ 12 และถูกล่อลวงจากคนแปลกหน้า ร้อยละ 7” นายวันชัย กล่าว

Advertisement

ด้านนายสกลธี กล่าวว่า จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้ผู้ว่าฯ กทม.พิจารณา และดีใจที่เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้กล้าลุกขึ้นมาทำเพื่อสังคม มีความคิดเป็นห่วงเพื่อนในวัยเดียวกัน เนื่องจากปัญหาของเด็กเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ บางคนต้องอยู่กับพ่อแม่ที่ค้ายาเสพติด ติดเหล้า ติดพนัน มีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเห็นด้วยกับข้อเสนอของเด็กเยาวชนและอยากให้เกิดเป็นรูปธรรม หลังจากนี้จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแต่ละสำนักว่าพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง และจัดสรรงบสนับสนุนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็ก ซึ่งเชื่อว่าผู้ว่าฯ เห็นด้วย กับการทำกิจกรรมที่ดีแบบนี้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image