สวทช. จับมือภาคี รวม 12 หน่วยงาน เปิดตัว “กลุ่มพัฒนาอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจร”

แฟ้มภาพ

 

สวทช. จับมือภาคี รวม 12 หน่วยงาน เปิดตัว “กลุ่มพัฒนาอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจร”

นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผอ.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เปิดเผยว่า สวทช.ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับไม้เศรษฐกิจ รวม 12 หน่วยงาน ได้แก่ 1.คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก 3. มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ 4.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ 5.กรมป่าไม้ 6. วิสาหกิจชุมชน ชมรมไม้กฤษณา (ไม้หอม) แห่งประเทศไทย 7. สมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ 8. สมาคมธุรกิจไม้โตเร็ว 9.สมาคมธุรกิจไม้ 10.สมาคมการค้าชีวมวลไทย 11. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ 12. สวทช. เปิดตัว “กลุ่มพัฒนาอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจร” สร้างคุณค่าให้กับไม้เศรษฐกิจของประเทศไทย

Advertisement

ผอ.สวทช.กล่าวต่อว่า อย่างที่ทราบปัจจุบัน ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ทำให้โลกหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ และนำไม้จากแหล่งที่จัดการอย่างยั่งยืนมาใช้ประโยชน์ ความต้องการไม้ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ชีวมวลยิ่งเร่งอัตราความต้องการใช้ไม้ของโลกให้เร็วและมากขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยปลูกต้นไม้ได้โตกว่าเขตอบอุ่น 5-7 เท่า และภาคเกษตรของไทยกำลังประสบปัญหาหลายด้าน การปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้เศรษฐกิจเป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์ไม้ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง ไม้สามารถสร้างเป็นอาคารสูงหลายสิบชั้น ผลิตเป็นเสื้อผ้า พลาสติก น้ำมัน ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สารเคมีต่างๆ แม้กระทั่งใช้ในทางการแพทย์และการเสริมความงาม ทำให้ในช่วงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจรมีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศประมาณปีละ 2-4 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ทั้ง 12 หน่วยงาน ร่วมมือกันจะได้ใช้ศาสตร์ที่ตัวเองมีมาทำงานร่วมกัน พัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับไม้เศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงสร้างมาตรฐาน การทดสอบ และการสอบย้อนกลับว่าไม้เหล่านั้นมาจากป่าปลูกหรือไม่ เพื่อร่วมกันดูแลให้อุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน และอยู่คู่กับเศรษฐกิจไทยโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมภายในประเทศ โดยมีความร่วมมือ 5 ปี

ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมการผลิตไม้เศรษฐกิจ และมีการแก้ไขกฎหมายที่อำนวยความสะดวกในเรื่องที่ให้ประชาชนปลูกไม้มีค่า ทั้งในที่ดินที่เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์และที่ดินที่รัฐอนุญาตใช้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นเราจะมีพื้นที่อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 60 ล้านไร่ที่จะเป็นเป้าหมายในการปลูกไม้เศรษฐกิจ ดังนั้น จึงควรเร่งสร้างให้เกิดห่วงโซ่อุปทานของไม้เศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้กล้าไม้พันธุ์ดี เมื่อไม้โตแล้วเป็นไม้ที่มีคุณภาพ รวมถึงความรู้ในเรื่องกระบวนการตัดไม้หลังจากที่ไม้โตแล้ว การต่อยอดพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ไม้เพื่อเพิ่มมูลค่า ตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดการค้าไม้ไปยังต่างประเทศ ทั้งในส่วนไม้ท่อน ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image