อดีตเลขาสมาคมแพทย์แผนไทย โต้ สบส. กรณีถูกถอนใบทะเบียนหมอนวด

อดีตเลขาสมาคมแพทย์แผนไทย โต้ สบส.กรณีถูกถอนใบทะเบียนหมอนวดที่ผ่านการอบรมจากสมาคมฯ จ่อฟ้องผู้บริหาร เหตุด่วนสรุป ไม่ตรวจสอบก่อน

จากกรณีผู้ประกอบการร้านนวด นำโดย นางชาลิดา ศิริธนาบุญ ได้ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยเหลือเยียวยาหมอนวดที่ได้รับผลกระทบจากการที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ไม่รับขึ้นทะเบียน ซึ่งต่อมาทาง สบส.ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลการไม่รับขึ้นทะเบียนหมอนวดที่มีใบประกาศนียบัตรจากสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย เนื่องจากพบความผิดปกติ มีการเปิดสาขาสอนนวด หรือแฟรนไชส์ ซึ่งผิดกฎหมายนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายสุกษม อามระดิษ อดีตเลขานุการสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเจตนารมณ์ในการก่อตั้งสมาคมฯ คือห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง ซึ่งตนก็ลาออกไปแล้ว เพื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้านี้จึงไม่ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นเพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่วันนี้ สถานการณ์ที่หมอนวดได้รับผลกระทบจำนวนมาก และมีการแจ้งดำเนินคดีกับบิดาของตนซึ่งคือ นายอร่าม อามระดิษ นายกสมาคมฯ อายุกว่า 92 ปี แล้วทำให้ตนตัดสินใจที่จะออกมาชี้แจง ทั้งนี้ กรณีที่ สบส.มีการระบุว่าสมาคมฯ ออกใบประกาศนียบัตรเกือบ 1 แสนคนนั้น ยืนยันว่าไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งถ้ารวมการเรียนการสอนตั้งแต่ที่เปิดสมาคมฯ เมื่อปี’40 ก็มีหมอนวดที่อยู่ในระบบประมาณ 3-4 หมื่นราย ที่ตกหล่นไปช่วงน้ำท่วมและการย้ายที่ตั้งสมาคมฯ อีกประมาณ 1-2 หมื่นราย รวมทั้งหมดก็ไม่เกิน 6 หมื่นราย ที่ตัวเลขนั้น สบส.เหมารวมเอาหน่วยงานอื่นเข้ามาด้วยเพื่อที่จะทำให้หมอนวดเดือดร้อนและฟ้องร้องกับสมาคมฯ เอง โดยที่ สบส.นั่งอยู่บนภูเขา

นายสุกษมกล่าวต่อว่า เมื่อมี พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพออกมาเมื่อปี 2559 สบส.ได้ทำหลักสูตรการเรียนการสอนกลางแล้วให้สมาคมไปเปลี่ยนชื่อหลักสูตรให้สอดคล้อง ซึ่งสมาคมก็ทำ แต่ช่วงหนีน้ำท่วมข้อมูลก็ไม่สมบูรณ์จึงประกาศในเฟชบุ๊กให้สมาชิกมาแสดงตน จะได้ส่งรายชื่อให้ สบส. ต่อมา สบส.ทำหนังสือมาครั้งแรกให้สมาคมไปชี้แจง แต่เรายังไม่พร้อมจึงขอเลื่อนไป 30 วัน ซึ่งยังไม่ทันครบ 30 วัน สบส.ก็มีหนังสือเวียนถึง สสจ.ทั่วประเทศไม่ให้รับขึ้นทะเบียนหมอนวดที่ถือใบประกาศของสมาคม ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าผิดหรือถูก แต่ สบส.ด่วนสรุปและลงโทษแล้ว ตั้งเป็นศาลเตี้ย ดังนั้น เรื่องนี้จะมีการส่งศาลปกครองตีความและส่งเรื่องเดียวกันนี้ถึง สบส.ด้วย คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า ส่วนกรณีที่ถูกแจ้งความเรื่องฉ้อโกงนั้นจะให้ทนายเข้าชี้แจงที่ สภ.นนทบุรี ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ได้ให้ทนายความเตรียมข้อมูลในการฟ้องร้องผู้บริหาร สบส.ซึ่งจะครอบคลุมใครบ้างก็ต้องมาดูอีกที แต่ที่จะฟ้องคือผิดมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งระบุว่าก่อนออกกฎหมายรัฐต้องรับฟังความเห็น วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน หากออกมาแล้วต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายเพื่อพัฒนาให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป

Advertisement

เมื่อถามว่าเหตุผลที่ สบส.สั่งระงับขึ้นทะเบียนเพราะพบความผิดปกติ มีหมอนวดที่จบจากสมาคมนับแสนคน ทั้งที่สามารถสอนได้แค่ 7 คน นายสุกษมกล่าวว่า ก่อนหน้านั้นสอนเกินกันหมด กระทั่งมีกฎหมายสถานศึกษาเอกชน ปี 2553 ยอมรับว่าเรามีการสอนเกิน 7 คน ถ้าสอนกันที่สมาคมจะสอนที่ไม่เกิน 7 คน แต่ถ้าเป็นการไปสอนนอกพื้นที่ตามที่หน่วยงานรัฐร้องขอให้เราไปช่วย เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเข้าไปสอนในคุก ตรงนี้ต้องสอนกันจำนวนมากเพราะไม่ได้เข้าออกง่ายๆ หรือเข้าออกได้บ่อยๆ ทำให้ต้องสอนเกิน 7 คนอยู่แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image