“นักวิชาการ” แนะใช้กม.ลงโทษขั้นรุนแรงสำหรับคนเผ่าป่าเพื่อเอาเห็ดและของป่า เพื่อปลูกจิตสำนึก

ดร.เพทาย เย็นจิตโสมนัส หัวหน้าหน่วยอณูชีววิทยาการแพทย์ สถานส่งเสริมวิจัยและผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีการเผาป่าว่า “การสร้างจิตสำนึก – กรณีการเผาเอาเห็ดและของป่า”

“การเผาป่า เพื่อจะเอาเห็ดและของป่า โดยใครจะลำบากเดือดร้อนอย่างไร ไปทั้งชุมชน จังหวัด หรือประเทศ ผู้กระทำไม่ต้องสนใจอย่างนั้นหรือ?

กฎหมายในเรื่องนี้ควรจะต้องมีบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น ลำพังปรับไม่กี่ร้อยหรือกี่พันบาท หรือยกมือไหว้ขอร้องกัน คงจะไม่สามารถหยุดยั้งการเผา ซึ่งอ่อนหรือไร้เหตุผล แต่สร้างผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของคนจำนวนมากในวงกว้างได้ มิหนำซ้ำ โดยทั่วไป ในหลายครั้ง หลายกรณี พอมีการกระทำผิดและถูกลงโทษไปแล้ว ยังอาจจะมีโปรโมชั่น แบบลด-แลก-แจงแถมกันอีก จนผู้กระทำผิด เกือบจะไม่ถูกลงโทษใดๆ ทำให้การกระทำผิดกฎหมายและการลงโทษ จึงไม่มีความหมาย และถูกทำลายความศักดิ์สิทธิ์ไปจนเกือบหมดสิ้น

วิธีสร้างจิตสำนึกของคน ไม่ว่าคนนั้นจะอยู่ในชุมชน หมู่บ้าน ท้องถิ่น เมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ และสังคมวงกว้าง ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การสร้างบทบัญญัติของกฎหมายที่มีโทษที่หนักหรือรุนแรง

Advertisement

บทบัญญัติที่หนักหรือรุนแรง จะไม่มีผลใดๆ ต่อคนที่ไม่ได้กระทำความผิด หรือคนดี ถ้าระบบยุติธรรมไม่ผิดพลาด หรือถูกนำมาใช้ในการกลั่นแกล้งหรือทำร้ายคนอื่น

แต่มีบทบัญญัติของกฎหมายที่มีโทษที่หนักหรือรุนแรง ก็ยังไม่เพียงพอและสำคัญเท่ากับการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ ถูกต้องแม่นยำ รวดเร็วว่องไว เสมอภาค ไม่ลูบหน้าปะจมูกหรือเลือกปฎิบัติ

กฎหมายที่มีโทษที่หนักหรือรุนแรง การบังคับใช้กฎหมายอย่างเที่ยงตรง ไม่เลือกปฏิบัติ รวดเร็วว่องไวและมีประสิทธิภาพ จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญและดีที่สุดในการสร้างจิตสำนึก คุณธรรม-จริยธรรม หรือแม้แต่ความเชื่อทางศาสนาของคนในสังคม เพราะคนกระทำผิด จะได้รับผลอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทำให้เห็นว่ากฎแห่งกรรมมีจริงและส่งผลรวดเร็ว ทำดีได้ดีและทำชั่วได้ชั่ว มีจริง

Advertisement

การดึงคนในสังคม ทุกภาคส่วน มามีส่วนรวมและช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย จึงจะเกิดขึ้นได้และเป็นเรื่องที่ควรจะกระทำต่อมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image