‘บิ๊กอู๋’ สั่งเข้มผีน้อยแดนโสม-เร่ง ปชส.สร้างความเข้าใจ เผย 8เดือน สกัดได้ 2,698 คน

กรณีโลกโซเชียลแชร์เรื่องราวของคนไทยกว่า 300 คน ถูกกักภายในด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) หลังเดินทางด้วยสายการบินราคาถูก ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานรับตัวคนไทยทั้งหมดกลับประเทศไทย และหากพบว่ามีบริษัทใดหลอกคนไทยไปทำงานก็พร้อมจะดำเนินคดีกับบริษัทนั้น

เมื่อวันที่ 23 เมษายน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ว่า ในกรณีนี้จะขอตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจเมื่อกลางปี 2561 ในเกาหลีใต้มีแรงงานไทยอยู่เกือบ 2 แสนคน แต่เป็นแรงงานไทยที่ไปอย่างถูกต้องประมาณ 70,000 คน ส่วนอีก 1.2 แสนคนนั้นเข้าไปแบบผิดกฎหมาย (ผีน้อย) ซึ่งทางการเกาหลีผ่อนผันให้กลับประเทศไทยได้โดยไม่ขึ้นบัญชีดำจนถึงเดือนมีนาคม 2562 และพบว่ามีแรงงานไทยที่กลับมาแล้วประมาณ 20,000 คนเศษ

“ที่ผ่านมา กกจ.พยายามเข้มงวดให้แรงงานไทยไปทำงานอย่างถูกต้อง เพราะจะได้ค่าจ้างที่ดีและได้รับความคุ้มครอง มีประกันสังคม ถือว่ามีการดูแลกันอย่างดี แต่หากไปแบบหลบๆ ซ่อนๆ เป็นผีน้อย หากมีปัญหาเกิดขึ้น อาทิ เจ็บป่วย หรือได้รับอุบัติเหตุ ถือว่าไม่คุ้ม” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว และว่า ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน (กกจ.) มีหน่วยเฝ้าระวังอยู่ที่ด่าน ตม.ทั้งดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ผลการสกัดกั้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ถึงวันที่ 22 เมษายน 2562 มีการระงับการเดินทาง 2,698 คน เฉลี่ยเดือนละ 400 คนเศษ หรือบางเดือนอาจถึง 600 คนเศษ ดำเนินคดีกับสายหรือนายหน้า จำนวน 24 ราย 18 คดี เรื่องนี้อาจจะต้องเร่งทำความเข้าใจกับผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ตลอด เหตุใดยังมีการลักลอบไปทำงานที่เกาหลีใต้อีกจำนวนมาก พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ค่อนข้างมีความต้องการไปทำงานมากที่สุด เพราะมีรายได้ดี เดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท เข้าใจว่าตัวเลขคนไทยที่ต้องการไปกับตัวเลขโควต้าอาจจะไม่สัมพันธ์กัน โดยตลาดแรงงานยังต้องการแรงงานไทยอีกมาก แต่เกาหลีใต้ให้โควต้าเพียง 7,000 คนต่อปี อีกทั้งเมื่อมีการให้ทดสอบภาษาก่อนเดินทางมักจะไม่ผ่าน จึงเป็นเหตุให้มีการใช้ทางลัดลักลอบไปอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้น จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจ เฝ้าระวัง และหาวิธีการยับยั้งกลุ่มที่จะเดินทางไปอย่างผิดกฎหมาย และใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้นกับบริษัทที่จัดพาแรงงานไทยไปอย่างผิดกฎหมาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image