สธ.คุมเข้ม ‘โรคซิฟิลิส’ ประสานสถานศึกษาทั่วประเทศลงพื้นที่ให้ความรู้นักเรียน

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากรายงานสถานการณ์ของโรคซิฟิลิส ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 พบผู้ป่วย 3,080 ราย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี คิดเป็นร้อยละ 40.42 รองลงมา คือ อายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 24.48 เป็นสัญญาณถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยของกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน และวัยเจริญพันธุ์ เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ จึงได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ของโรคในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานสถานศึกษาให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการป้องกันโรคด้วย

นพ.สุขุมกล่าวต่อไปว่า สธ.ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการพัฒนาระบบบริการควบคุม ป้องกัน และดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ได้แก่ การพัฒนาระบบเฝ้าระวัง ระบบข้อมูล ระบบติดตามประเมินผล เพิ่มคุณภาพการบริการโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของโรงพยาบาล พัฒนาศักยภาพคลินิกกามโรคสำนักงานป้องกันควบคุมโรค จัดทำแผน การศึกษาวิจัย รวมถึงทบทวนและพัฒนาแผนยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

“ขอแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งและสวมถุงยางอนามัยให้ถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เจาะเลือดเพื่อตรวจคัดกรองซิฟิลิสและเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ต้องเข้ารับการฝากครรภ์ในระยะที่กำหนดและรับการตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิสพร้อมสามี เพื่อป้องกันและลดโอกาสการแพร่เชื้อของโรค โดยสามารถขอข้อมูลการป้องกันตนเองและคู่ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ การใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี ได้ที่สายด่วนปรึกษาเอดส์ โทร 1663 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422” นพ.สุขุมกล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือได้รับเลือดจากผู้ติดเชื้อ ซึ่งผู้ป่วยจะทราบว่าติดเชื้อต่อเมื่อได้รับการตรวจเลือด แม่ที่ติดเชื้อซิฟิลิสแล้วไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลถึงทารกในครรภ์ได้ ซึ่งปี 2562 พบเด็กแรกคลอดเป็นโรคซิฟิลิสถึง 249 ราย อาการของโรคหลังจากได้รับเชื้อระยะแรก อาจพบแผลที่อวัยวะเพศ จากนั้นแผลจะหายและมีผื่นตามร่างกาย ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือที่อวัยวะเพศ อาจมีผมร่วงเป็นหย่อมๆ ผู้ติดเชื้อบางรายอาจจะไม่แสดงอาการ แต่เชื้อจะอยู่ในร่างกายถ้าไม่ได้รับการรักษาสามารถก่อให้เกิดความผิดปกติที่สมอง ระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคนี้เป็นแล้วมียารักษาให้หายขาด แต่ต้องตรวจติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image