ปลัด สธ.สั่งดำเนินคดีผู้ก่อเหตุวิวาทใน รพ. 2 แห่ง ถึงที่สุด

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 10 สธ. ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับมอบหมายจาก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล หลังเกิดเหตุมีผู้เข้าไปทำร้ายผู้ป่วยที่กำลังรักษาที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาล (รพ.) เหล่าเสือโก้ก ต.เหล่าเสือโก้ก อ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี และเหตุทำร้ายญาติผู้ป่วยที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พร้อมกำชับให้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ และเรียกร้องค่าเสียหายจากการทำลายเครื่องมือแพทย์อย่างถึงที่สุดเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ

“โดยที่ รพ.เหล่าเสือโก้ก มีผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่งรักษาต่อที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ มีอุปกรณ์การแพทย์ที่เสียหาย คือเครื่องวัดความดันโลหิต ส่วน รพ.สมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นญาติผู้ป่วย เบื้องต้นได้สั่งการให้โรงพยาบาลในเขตสุขภาพทุกแห่ง ประสานงานตำรวจทันที หากมีผู้ป่วยจากการทะเลาะวิวาทเข้ามารักษาไม่ต้องรอเกิดเรื่องก่อน ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันญาติ หรือมีประตูนิรภัยให้ล็อกประตูทันที รวมทั้งติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม” นพ.ธงชัยกล่าว

ทั้งนี้ นพ.ธงชัยกล่าวว่า สธ.ได้กำหนดมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในโรงพยาบาล โดยเฉพาะบริเวณห้องฉุกเฉิน ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงเกิดเหตุบ่อยครั้ง ดังนี้ 1.ให้โรงพยาบาลจัดทำแนวทางปฏิบัติป้องกันและจัดการความรุนแรง ทบทวน ฝึกซ้อมและปรับปรุงเป็นประจำ 2.จัดทำระบบควบคุมประตู หรือมีทางเข้า-ออก ที่ปลอดภัยหลายช่องทาง 3.จัดสถานที่พักคอยสำหรับญาติ รวมทั้งจำกัดการเข้าออก 4.ตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งาน และติดตั้งเพิ่มในจุดเสี่ยง 5.จัดระบบคัดกรองโดยเฉพาะผู้ป่วยห้องฉุกเฉิน และจัดบริการให้เหมาะสมกับความเร่งด่วน รวมทั้งให้สื่อสารกับญาติผู้ป่วยเป็นระยะ เพื่อลดความวิตกกังวล 6.จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 7.จัดหาสัญญาณเตือนภัย หรืออุปกรณ์ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และมีช่องทางแจ้งเหตุด่วนกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเครือข่ายอาสาสมัคร มูลนิธิต่างๆ ในพื้นที่

Advertisement

“อย่างไรก็ตาม แม้ สธ.จะมีมาตรการป้องกัน แต่คงป้องกันไม่ได้ทั้งหมด ต้องขอความร่วมมือประชาชนผู้มารับบริการ รวมทั้งญาติผู้ป่วย ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในโรงพยาบาล ซึ่งควรจะเป็นพื้นที่ปลอดความรุนแรงสำหรับประชาชนทุกคน และที่สำคัญคือ จิตสำนึกความรับผิดชอบของผู้ที่ตั้งใจเข้ามาก่อเหตุ” นพ.ธงชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image