‘พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า’ เปิดโชว์ป่าเขตร้อนสมบูรณ์ที่สุดในโลก 15 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ผศ.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า อพวช.จะเปิดพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ที่มีหัวใจหลักคือการนำเสนอหลักคิด วิธีการทรงงานและกระบวนการค้นหาคำตอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อที่จะทดลองระบบให้บริการในวันที่ 15 มิถุนายนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 ก่อนจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคมนี้ โดยไฮไลท์ที่ อพวช.ตั้งใจนำเสนอ คือ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและอาเซียน หรืออาจจะของโลกก็ได้ โดยเฉพาะการจัดแสดงระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่ให้บรรยากาศและประสบการณ์เสมือนจริงของประเทศไทย รวมทั้งป่าในเขตขั้วโลกเหนือเขตขั้วโลกใต้ เขตทุนดรา ป่าเขตหนาว ทะเลทราย เขตอบอุ่น และเขตป่าฝน ตลอดจนอิทธิพลของมนุษย์ต่อสภาพแวดล้อมนั้นๆ ที่จะมาจัดแสดงแบบเสมือนจริงเช่นกัน ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แรกๆของโลกที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์และสวนป่าหรือพฤกษศาสตร์อยู่รวมในสถานที่เดียวกัน


ผศ.รวิน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีห้องฉายภาพยนตร์ 270 องศาใหญ่ที่สุดที่จะพาผู้ชมเดินทางไปกับหยาดฝนที่โปรยปรายในป่าฝนเขตร้อนแหล่งพึ่งพาของสิ่งมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ทั้งยังจะได้พบกับสิ่งมีชีวิตมากกว่า 100 ตัวที่มีอิทธิพลต่อสภาวะแวดล้อมกว่า 50 สายพันธุ์จากพื้นที่ป่าเขตร้อนหลักๆทั่วโลกเรียกได้ว่ารวบรวมมาจัดแสดงมากที่สุดในโลกก็ว่าได้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติชวนให้เกิดการตั้งคำถามและทบทวนบทบาทของเราต่อระบบนิเวศเช่นรู้หรือไม่ว่าโทรศัพท์มือถือกับกอริลลานั้นมีความเกี่ยวพันกันมากกว่าที่เราคิดขณะเดียวกันยังมีการจัดแสดงเขตภูมินิเวศของประเทศไทยที่ถือว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพสูงไม่แพ้ที่ใดในโลกโดยจำลองป่าไม้ที่มีความแตกต่างกัน4แห่งตั้งแต่ป่าดิบบนยอดเขาสูงไปจนถึงท้องทะเลได้แก่ป่าดิบเขาป่าเต็งรังป่าดิบชื้นและป่าพรุรวมถึงจำลองพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งเป็นระบบนิเวศดั้งเดิมของทุ่งรังสิตมาจัดแสดงร่วมอีกด้วย

“พิพิธภัณฑ์พระรามเก้าถือว่ามีความโดดเด่นและแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆตรงที่มีการจำลองสภาพแวดล้อมและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตรวมถึงมนุษย์ภายในชีวนิเวศต่างๆทั่วโลกมาจัดแสดงแบบเสมือนจริงดังนั้นการมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์พระรามเก้าที่เดียวก็เหมือนได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลกเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ความรู้และความเพลิดเพลินและยังได้มุมมองใหม่ในการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน” ผศ.รวิน กล่าว

Advertisement


QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image