กรมควบคุมโรคห่วง ‘ไข้หวัดใหญ่’ ระบาดในจุดที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ ระบุยังไม่มีแผนฉีดใน ‘โรงเรียน’

ความคืบหน้ากรณีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ และรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- วันที่ 23 พฤษภาคม ทั่วประเทศพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 159,845 ราย เสียชีวิต 11 ราย โดยจังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ระยอง และ เชียงใหม่ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ทั่วประเทศพบว่า การระบาดส่วนใหญ่เกิดในจุดที่มีคนจำนวนมากทั้งเรือนจำ โรงเรียน ที่พัก ค่ายทหาร นั้น

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค สธ. ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และระยอง ที่พบว่ามีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สูงสุดนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสั่งการใดๆ เป็นพิเศษ ส่วนภาพรวมทั่วประเทศ ขณะนี้หลายจังหวัดที่มีวัคซีนสำรองอยู่ได้เริ่มนำวัคซีนออกมาทะยอยฉีดให้กับประชาชนใน 7 กลุ่มเสี่ยงบ้างแล้ว สำหรับวัคซีนล็อตใหม่ ประมาณ 4 ล้านโดส ขณะนี้อยู่ระหว่างกระจายวัคซีนออกไปทั่วประเทศ ให้เริ่มฉีดพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีแนวโน้มรุนแรง ได้มีแผนนำวัคซีนเข้าไปฉีดในจุดที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ เช่น ในโรงเรียน หรือไม่ นพ.วิชาญ กล่าวว่า ในปีนี้ สธ.ยังคงดำเนินการตามแผนและมาตรการที่วางไว้ คือ ฉีดใน 7 กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรครุนแรงและควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ประจำปี ได้แก่ 1.หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี 3.ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4.ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ 7.โรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ส่วนการนำวัคซีนไปฉีดให้เด็กในโรงเรียนนั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือและพิจารณาในคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ

เมื่อถามอีกว่า นอกจาก 3 จังหวัดที่ระบาดหนัก ยังมีพื้นที่ใดต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือมีแนวโน้มระบาดอีกบ้าง นพ.วิชาญ กล่าวว่า ในจุดที่มีคนอยู่รวมกันมากน่ากังวล เช่น เรือนจำทั่วประเทศ ขณะนี้ก็ได้มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังแล้ว ทั้งนี้การระบาดของโรคในแต่ละปีจะมี 2 รอบ คือ ช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝน และช่วงฤดูฝนต่อฤดูหนาว โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายนนี้มีแนวโน้มสูงกว่าเดือนอื่นๆ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image