16 องค์กรยื่นหนังสือหนุนร่าง พ.ร.บ.สารเคมี ฉบับแรกของไทย

16 องค์กรยื่นหนังสือหนุนร่าง พ.ร.บ.สารเคมี ฉบับแรกของไทย

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เครือข่ายภาคประชาสังคม นำโดย ผศ.ยุพดี ศิริสินสุข ประธานคณะอนุกรรมการด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล คณะอนุกรรมการด้านอาหารฯ คอบช. และ น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อสนับสนุนการจัดทำร่าง พ.ร.บ.สารเคมี พ.ศ. …ถึงคณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายสารเคมี ผ่าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย. โดยมี นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการ อย. เป็นผู้รับแทน

น.ส.กรรณิการ์ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.สารเคมี พ.ศ. … ถือเป็นกฎหมายฉบับแรกที่มาจัดการสารเคมีอย่างจริงจังและครบวงจร ยกตัวอย่างกรณีไฟไหม้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ใดได้ โดยช่วงแรกยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นสารเคมีชนิดใด เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดมากขึ้น เพราะประเทศพัฒนาแล้วจะไม่ใช้สารเคมีอันตราย แต่ในกระบวนการจะส่งมาขายยังประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น จึงต้องมีกฎหมายในการกำกับดูแล ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้สาระสำคัญหลายประการ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็น ขณะที่ทางภาคอุตสาหกรรมกำลังจะคัดค้านร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ดังนั้น องค์กรภาคประชาสังคม 16 องค์กร เช่น มูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังพัฒนาระบบยา (กพย.) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ฯลฯ ต้องออกแสดงการสนับสนุนต่อคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการจัดการยุทธศาสตร์สารเคมี ซึ่งมีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ อย.เป็นฝ่ายเลขานุการ

ด้าน ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า สิ่งที่อยากเสนอเพื่อให้ พ.ร.บ.สารเคมี มีประสิทธิภาพ มี 4 หลักการ คือ 1.หลักการป้องกันและปลอดภัยไว้ก่อน ที่เป็นหลักทั่วโลก คือ เมื่อจะอนุญาตสารเคมี ยา หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ ถ้ามีความเสี่ยงก็ต้องหยุดความเสี่ยงนั้นไว้ ซึ่งรวมถึงสารเคมีที่จำหน่ายในประเทศไทยจะต้องมีการจำหน่ายในประเทศเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วย เพราะหลายประเทศที่เป็นเจ้าของสารเคมี เมื่อเลิกจำหน่ายสารเคมีแล้ว แต่เอามาขายในประเทศที่กำลังพัฒนา หลักการนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งระบายสารเคมีอันตรายที่ต่างประเทศเลิกผลิตหรือจำหน่ายแล้ว 2.หลักการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและต้องปลอดจากการมีส่วนได้เสีย โดยเสนอให้เพิ่มสัดส่วนของคณะกรรมการสารเคมีแห่งชาติ ให้มีภาคประชาชนที่เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 3.หลักการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะอย่างโปร่งใส ในการพิจารณาตัดสินใจต่างๆ ให้สาธารณะมีส่วนในการเฝ้าระวังการตัดสินใจ และ 4.การเพิ่มความรับผิดชอบของผู้ผลิต ซึ่งอยู่ในร่างกฎหมายแต่อยากให้เกิดรูปธรรมจริง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image