ทีมสัตวแพทย์ ทช.ฟูมฟัก “มาเรียม” พะยูนน้อยหลงทาง ใกล้ชิด คาดอีก 6 เดือนปล่อยคืนทะเล(ชมคลิป)

ทีมสัตวแพทย์ฟูมฟัก “มาเรียม” พะยูนน้อยหลงทาง ใกล้ชิด คาดอีก 6 เดือนปล่อยคืนทะเล

หลังจากที่มีการพบลูกพะยูน เพศเมีย อายุประมาณ 1 ปี พลัดหลงจากแม่และว่ายน้ำตามเรือเข้าเขตจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)นำตัวมาดูแลเพื่อฟื้นฟูสภาพแบบธรรมชาติ บริเวณจุดชมพะยูน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง นั้น

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดี ทช. เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดเฝ้าระวังและอนุบาลลูกพะยูนเกยตื้นชั่วคราวว่า ได้รับการรายงานถึงสถานการณ์ของลูกพะยูน หรือ เจ้ามาเรียม จากน.ส.พัชราภรณ์ แก้วโม่ง นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต หัวหน้าทีมสัตวแพทย์ที่เฝ้าดูแลลูกพะยูนตัวดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่า ขณะนี้เจ้ามาเรียมมีสุขภาพแข็งแรงดี ความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับที่ผอม โดยทีมสัตวแพทย์ได้ให้นมและสารอาหารที่ทดแทนอย่างเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ส่วนอาการอื่นๆ ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

Advertisement

“ทีมสัตวแพทย์ยังคงต้องติดตามเฝ้าระวังและดูแลในเรื่องของโภชนาการหลักอย่างใกล้ชิด โดยเจ้ามาเรียมสามารถตอบสนองการกินนมและหญ้าทะเลได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันทีมสัตวแพทย์จะให้นมประมาณ 1-2 ลิตร/วัน พร้อมกับให้วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ที่สำคัญ โดยการให้นมนั้นจะให้ไปเรื่อยๆ ตามความต้องการในแต่ละวัน เปรียบเสมือนการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติที่ลูกพะยูนจะต้องกินนมแม่ได้ทั้งวัน นอกจากนี้ทีมสัตวแพทย์ได้พาเจ้ามาเรียมว่ายน้ำเพื่อให้ลำไส้มีการขยับตัวเพื่อลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อเหมือนเด็กทารก และที่สำคัญเป็นการออกกำลังกายและลดความเครียดให้กับเจ้ามาเรียมได้เช่นกัน ทั้งนี้ คาดว่าประมาณ 6 เดือน ถ้าเจ้ามาเรียมมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถหาอาหารกินเองได้ตามธรรมชาติ ก็จะปล่อยเจ้ามาเรียมกลับคืนสู่ท้องทะเลต่อไป”นายนจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า ชื่อของลูกพะยูนเพศเมียตัวดังกล่าวนี้มีชื่อว่า “มาเรียม” ซึ่งตามหลักศาสนาอิสลามที่ชาวบ้านเกาะลิบงช่วยกันตั้งชื่อนี้มีความหมายว่า “ผู้หญิงที่มีจิตใจงดงาม” เปรียบเสมือนความรัก ความหวงแหน และความผูกพันที่ชาวบ้านเกาะลิบงมีต่อพะยูนซึ่งเป็นสัตว์สงวนประจำท้องถิ่นของจังหวัดตรัง

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ กิจกรรมทางทะเลการสัญจรทางเรือ และเครื่องมือประมง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพะยูนได้ เช่น หากมันว่ายน้ำออกไปนอกแนวเขต ก็อาจถูกเรือชน หรือถูกใบพัดเรือ รวมทั้งอาจไปติดเครื่องมือประมงบางชนิด หรือว่ายน้ำเผลอเข้าไปเกยตื้น ฉะนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามกติกาที่พึงมีอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1. ห้ามลงน้ำ/ดำน้ำกับพะยูน 2. ห้ามขับเรือไล่ ต้องดับเครื่องเมื่อเข้าใกล้ 3. เมื่อพะยูนแสดงให้เห็นว่าถูกรบกวนพฤติกรรม ต้องยุติกิจกรรมทั้งปวง 4. เรือทุกลำต้องลงทะเบียน เพื่อสามารถจัดการดูแลได้ 5. ควรมีคณะทำงานร่วมกัน เพื่อกำหนดกติกา/จำนวนเรือในพื้นที่ ตลอดจนปรึกษาหารือเรื่องอื่นๆ ร่วมกัน 6. ควรต้องมีการศึกษาเรื่องการท่องเที่ยวชมพะยูนเป็นการเร่งด่วน และ 7. ไม่ทิ้งขยะลงในท้องทะเล เพราะขยะพลาสติกเหล่านี้อาจจะสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสัตว์ทะเลหายาก ระบบนิเวศทั้งทางบกและทางทะเล หรือทำลายทัศนียภาพอันงดงามของเกาะลิบงอีกด้วย”นายจตุพร กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image