“อัศวิน” รับผิด “น้ำท่วมกรุง” ไม่โบ้ยใคร เล็งซื้อเครื่องสำรองไฟติดอุโมงค์ยักษ์

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ห้องประชุมและวางแผน (วอร์รูม) ศาลาว่าการ กทม.2 (ดินแดง) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานประชุมคณะผู้บริหาร กทม. หารือการรับมือป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ได้ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณฝนที่ศูนย์ควบคุมรับป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการ กทม.2 พร้อมลงพื้นที่ติดตามความพร้อมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ประชาสงเคราะห์ 24 และตรวจอาคารรับน้ำรัชดาฯ โดยเหตุการณ์ฝนตกน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา พบสาเหตุหลักเกิดจากปริมาณฝนสะสมมากถึง 136 มิลลิเมตร (มม.) ทำให้น้ำระบายไม่ทัน โดยจากการคาดการณ์ปริมาณฝนสะสมตลอดเดือนมิถุนายนจะต้องมีปริมาณฝนสะสมสูงสุดเฉลี่ย 200 มม.แต่เพียงวันเดียวกลับมีฝนตกมากถึง 136 มม.และสาหตุระบบสูบน้ำขัดข้อง ทั้งสถานีสูบน้ำรัชดา-วิภาวดี และอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ ซึ่งล่าสุดได้หารือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ให้จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ระบายน้ำทั่วกรุงเทพฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ เมื่อ กทม.ได้รับรายงานจากเรดาร์จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้อง

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับสาเหตุอุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อขัดข้อง เกิดจากแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้า 2 ทางที่มาจากสามเสนและบางซ่อน เกิดปัญหาไฟฟ้าดับพร้อมกัน ทำให้เครื่องสูบน้ำทั้ง 6 ตัว ภายในอุโมงค์บางซื่อหยุดทำงาน เนื่องจากฟิวส์ขาด โดย 5 ตัว มีกำลังไฟ 200 แอมป์ และอีก 1 ตัว มีกำลังไฟ 100 แอมป์ วันเดียวกันนั้น กฟน.ได้เข้ามาเปลี่ยนฟิวส์ของเครื่องสูบน้ำที่มีกำลังไฟ 100 แอมป์ ให้เท่ากับอีก 5 ตัว จนต่อมาเริ่มเดินเครื่องสูบน้ำได้ และใช้เวลาระบายน้ำไม่นานเหมือนที่ผ่านมา

“อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นข้อแก้ตัวของผู้ว่าฯ กทม. โดย กทม.ยอมรับสภาพปัญหาดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นจากจุดบกพร่องของ กทม.เอง ผมไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ และไม่โทษใคร” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า ส่วนในอนาคตมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องสูบน้ำพังหรือเสีย ส่วนเครื่องสำรองไฟของอุโมงค์บางซื่อ เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าสำรองตั้งแต่การออกแบบก่อสร้างตั้งแต่แรก ซึ่งไม่ตนก็ไม่ทราบว่าถึงสาเหตุที่ไม่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรองดังกล่าว ทั้งนี้ กทม.จะแก้ปัญหาด้วยการพิจารณาจัดซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีกำลังไฟถึง 6,600 โวลต์ เป็นเครื่องขนาดใหญ่และต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงในการจัดซื้อ ซึ่งปัจจุบันกทม.มีเครื่องกำเนิดไฟเพียง 1,000 โวลต์เท่านั้น

Advertisement

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในเบื้องต้นอาจพิจารณาจัดซื้อ 1-2 เครื่อง ก่อน เพราะเห็นว่ามีความจำเป็น เช่น กรณีเกิดไฟฟ้าดับทั่วกรุงเทพฯ เป็นต้น ขณะนี้สำนักการระบายน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนวิศวกรไฟฟ้า อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบและรายละเอียด ซึ่งในประเทศไทยไม่มีขายแน่นอน ส่วนต่างประเทศมีใช้ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อรองรับภัยพิบัติ ทั้งนี้ หาก 2-3 วัน มีเหตุการณ์ฝนตกอีก กทม.คาดว่าจะไม่เกิดปัญหาดังกล่าวอีก เพราะเครื่องสูบน้ำและโครงการเพิ่มประสิทธิภาพที่ กทม.มีอยู่

“อุโมงค์บางซื่อสร้างมาเป็น 10 ปี ก่อนที่ผมจะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีก ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมคิดไว้ ผมก็บอกแล้วอุโมงค์ที่กำลังก่อสร้างใหม่ให้ทำเครื่องสำรองไฟเผื่อไว้ด้วย” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image