วันที่ 19 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเหตุเครนก่อสร้างของคอนโดมิเนียมหักโค่น ภายในซอยเจริญกรุง 36 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เศษวัสดุร่วงหล่นมาด้านล่าง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 10 คน นำส่งโรงพยาบาล (รพ.) เลิดสิน 7 คน และรพ.เซนต์หลุยส์ 3 คน นอกจากนั้น พบว่าทรัพย์สินในบริเวณใกล้เคียงเสียหาย ทั้งนี้จากรายงาน พบว่าบริเวณนี้เคยเกิดเหตุเศษวัสดุร่วงลงมาแล้วหลายครั้ง
ล่าสุด นพ.พรเทพ แซ่เฮ้ง ผู้อำนวยการศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์เอราวัณ เปิดเผยว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บ มีทั้งที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยผู้ที่ถูกนำส่ง รพ.เซนต์หลุยส์ ขณะนี้กลับบ้านได้แล้ว ส่วน รพ.เลิดสิน แพทย์ให้กลับบ้านได้ 6 คน อีก 1 คน อยู่ระหว่างประเมินอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ โดยเป็นผู้บาดเจ็บนักเรียนหญิงของโรงเรียนอัสสัมชันคอนแวนต์ อายุประมาณ 14 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ 10 เซนติเมตร
จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีรายงานว่าเครนดังกล่าวได้ข้ออนุญาตติดตั้งถูกต้อง โดยเป็นเครนก่อสร้างส่วนต่อเติมของคอนโดมิเนียม แต่รับน้ำหนักไม่ไหวจึงร่วงลงมา ทำให้เศษวัสดุก่อสร้างร่วงลงไปด้านล่างจนมีผู้บาดเจ็บ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า อาคารดังกล่าวยื่นขอปรับปรุงอาคารเพื่อเป็นอาคารพักอาศัยรวม สูง 17 ชั้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 แต่เมื่อเจ้าหน้าที่โยธา และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรักเข้าไปตรวจสอบ พบว่ามีการดัดแปลงอาคารผิดวัตถุประสงค์ เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 และสำนักงานเขตบางรักได้ออกคำสั่งระงับการก่อสร้างแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุวัสดุก่อสร้างร่วงหล่นมาใส่โรงเรียน และบ้านเรือนบริเวณใกล้เคียงหลายครั้ง และเคยประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งเจ้าของอาคาร กทม.และโรงเรียน ซึ่งเจ้าของอาคารรับปากว่า จะดำเนินการแก้ไข แต่ก็กลับมาเกิดเหตุครั้งนี้อีก
หลังจากนี้ สำนักงานเขตบางรักจะเข้าไปติดป้ายห้ามเข้าพื้นที่ และระงับการก่อสร้างจนกว่าเจ้าของอาคารจะดำเนินการขอนุญาตดัดแปลงอาคารให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ด้าน นพ.สมพงษ์ ตันจริยาภรณ์ ผู้อำนวยการ รพ.เลิดสิน กล่าวว่า รพ.เลิดสิน ได้รับตัวนักเรียนมารักษาจำนวน 7 คน โดย 5 คนแรก มีอาการเจ็บเล็กน้อย ปวดขา ฝุ่นเข้าตา ให้การรักษาและให้กลับบ้านแล้ว ส่วนอีกรายเป็น เด็กหญิงอายุ 14-15 ปี เหล็กหล่นลงมาถูกขา จึงได้เอกซเรย์ขา ปรากฏว่าไม่พบการหักแต่อย่างใด จึงให้ยาแก้ปวดและให้กลับบ้านได้ แต่เด็กหญิงอีก 1 ราย ถูกเหล็กกระทบที่ศีรษะค่อนข้างรุนแรง โดยมีบาดแผลที่หนังศีรษะ คล้ายกับหมดสติไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็รู้สึกตัว จึงได้ให้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่ากะโหลกศีรษะด้านหลังแตกร้าว สมองช้ำเล็กน้อย แต่ไม่มีเลือดออกในสมองเวลานี้
“สำหรับเด็กหญิงรายดังกล่าวโรงพยาบาลได้เย็บแผล และส่งเข้าดูอาการอย่างใกล้ชิดที่ห้องไอซียู ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังและตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ซ้ำว่า มีเลือดออกหรือไม่ ซึ่งในช่วง 6-24 ชั่วโมงแรก เป็นช่วงที่ต้องดูแลใกล้ชิดมาก คอยตรวจดูมีเลือดออกหรือไม่ แต่ตอนนี้น้องยังรู้สึกตัวดี โดยญาติก็รับทราบอาการและมาดูแลอยู่ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ใช้สิทธิฉุกเฉินตามปกติได้” นพ.สมพงษ์กล่าวและว่า สำหรับนักเรียนอีก 3 คน ส่งไปยัง รพ.เซนต์หลุยส์ จากการสอบถามพบว่า อาการไม่รุนแรง มีอาการเจ็บขาบ้างเหมือน 5 คนแรก ก็ได้ให้กลับบ้านทั้งหมดแล้ว
