กทม.-สปสช.เขต 13 ผุด “คลินิกผู้สูงอายุ” ครบวงจร เช็คอัพ “สูงวัย” ฟรี 11รายการ

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 จัดทำโครงการคลินิกผู้สูงอายุครบวงจรนับตั้งแต่เดือน มีนาคม 2562 เพื่อขยายการคัดกรอง และส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ครอบคลุมมากขึ้น จึงขอเชิญชวนผู้สูงอายุและญาติที่มีผู้สูงอายุในครอบครัว ไปรับบริการในหน่วยบริการที่มีการจัดตั้งคลินิกดังกล่าวได้ฟรีทุกสิทธิ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

“โครงการนี้ต่อยอดมาจากคลินิกผู้สูงอายุคุณภาพ ซึ่งเปิดดำเนินการอยู่ใน 9 โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ กทม.มีประชากรหนาแน่น คาดว่ามีทั้งประชากรตามทะเบียนราษฏรและประชากรแฝงในพื้นที่กว่า 10-12 ล้านคน และจากการสำรวจสำมะโนประชากรผู้สูงอายุพบว่า มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ร้อยละ หรือ 1 ล้านคน ด้วยเหตุนี้เพื่อให้การคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุครอบคลุมมากขึ้น กทม.จึงได้หารือกับ สปสช.เขต 13 เพื่อขยายการดำเนินการคลินิกผู้สูงอายุและงบประมาณในการดำเนินการ ภายใต้ชื่อโครงการคลินิกผู้สูงอายุครบวงจร” นพ.สุขสันต์ กล่าว

นอกจากนี้ นพ.สุขสันต์ กล่าวว่า เดิม สปสช.เขต 13 มีงบประมาณส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับตรวจคัดกรองผู้สูงอายุอยู่แล้ว 8 รายการ คือ 1.การตรวจสุขภาพ 2.เจาะเลือดตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจวัดระดับเม็ดเลือด ระดับไขมัน 3.วัดภาวะความซึมเศร้า 4.วัดภาวะสมองเสื่อม 5.ดูเรื่องโภชนาการ 6.ประเมินการใช้ชีวิตประจำวัน หรือ ADL 7.ประเมินเรื่องการใช้ยา และ 8.ประเมินภาวะกระดูกพรุน แต่ยังมีรายการตรวจคัดกรองที่สำคัญอีก 2-3 รายการ ดังนั้น คลินิกผู้สูงอายุครบวงจรจะมีรายการตรวจเพิ่มาอีก 3 รายการ คือ 1.การคัดกรองภาวะการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ 2.การวัดภาวะพลัดตกหกล้ม และ 3.ให้คำแนะนำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพโดยสหสาขาวิชาชีพไม่น้อยกว่า 3 สาขา เช่น เป็นโรคควรทำอย่างไร ไม่เป็นโรคควรทำอย่างไร โดยคลินิกผู้สูงอายุครบวงจรนี้จะให้บริการตรวจคัดกรองทั้ง 11 รายการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ และ 3 รายการที่เพิ่มนี้หน่วยบริการจะได้งบประมาณสนับสนุนจาก สปสช.เพิ่ม

“ปีนี้มีหน่วยบริการเข้าร่วมโครงการแล้ว ประกอบด้วย โรงพยาบาล 24 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 30 แห่ง ตั้งเป้าภายในปีนี้จะสามารถตรวจคัดกรองผู้สูงอายุได้ 10,000 ราย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ของ สปสช. เขต 13 และจะนำรายชื่อขึ้นอัพเดทในเว็บไซต์ของสำนักการแพทย์ กทม.ต่อไป ผู้สนใจติดต่อได้ที่โรงพยาบาล หรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เมื่อพบว่าต้องมีการรักษาพยาบาลเกิดขึ้น ก็จะเข้าสู่กระบวนการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ หรือเบิกจ่ายตามสิทธิต่อไป” นพ.สุขสันต์ กล่าวและว่า สำหรับปีถัดไปวางแผน 1.ขยายฐานการคัดกรองผู้สูงอายุโดยจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุครบวงจรให้มากขึ้น ปัจจุบันในพื้นที่ กทม.มีโรงพยาบาล 156 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุขอีก 68 แห่ง ปีต่อไปตั้งเป้าโรงพยาบาล 40 แห่ง และ 68 ศูนย์บริการสาธารณสุข และขยายไปในคลินิกชุมชนอบอุ่นของ สปสช. เขต 13 ซึ่งปัจจุบันมี 200 กว่าคลินิก 2.ให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ ตั้งแต่ อสส. พยาบาล Care Giver รวมทั้งแพทย์และพยาบาลใน 5 เรื่องหลัก คือ การป้องกันภาวะสมองเสื่อม การใช้ยา ภาวะทุพโภชนาการ การพลัดตกหกล้ม และข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ ขณะที่สำนักการแพทย์จะจัดตั้ง Excellence Center ด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุในโรงพยาบาลสังกัด กทม. เพื่อให้ความรู้และรับส่งต่อกรณีผู้ป่วยที่รักษายากต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image