ผลวิจัยมะกันชี้ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ไม่ช่วยเลิกสูบ แนะรัฐบาลไทยจัดให้เป็นสินค้าผิด กม.

วันที่ 30 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีเสวนา E-Cigarette: Back to the Future ในการประชุมวิชาการบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 “Tobacco and Lung Health” ศ.สแตนตัน แกลนซ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและศึกษาด้านการควบคุมยาสูบ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยาสูบอยู่เบื้องหลังและสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า โดยพยายามล็อบบี้ให้เกิดการขายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่รัฐบาลไม่เห็นด้วยและพยายามระงับการขาย

“ส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้าจะมีแบตเตอรี่ แทงค์บรรจุนิโคตินและน้ำยา และฮีทคอยล์ในการสร้างความร้อนจนเกิดไอระเหย ซึ่งต่างจากบุหรี่ธรรมดาที่ใช้ไฟจุดและความร้อนทำให้เกิดควัน ขณะนี้ น่าเป็นห่วงว่าอุตสาหกรรมยาสูบกำลังพยายามโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างหนัก เช่น สหรัฐมีการโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าแบบไร้ควัน และออกแคมเปญต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ทำให้คนเข้าถึงและตลาดเติบโตขึ้น นอกจากนี้ ยังปรับปรุงผลิตภัณฑ์เป็นแบบซอฟต์นิโคติน ทำให้เกิดการติดนิโคตินได้ง่ายขึ้น โดยที่ผ่านมามีการอวดอ้างผลวิจัยว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ธรรมดาได้และปลอดภัยกว่าถึงร้อยละ 95 ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง เพราะไม่ได้มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจน อีกทั้งเป็นการดำเนินการวิจัยโดยมีบริษัทบุหรี่อยู่เบื้องหลัง” ศ.สแตนตัน กล่าวและว่า แม้บุหรี่ไฟฟ้าให้สารพิษน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ก็ยังเป็นสารพิษ และเมื่อร่างกายรับไปนานๆ ก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน

Advertisement

ศ.สแตนตัน กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบฝุ่นผงที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา จะพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าเกิดฝุ่นผงขนาดเล็กกว่า ทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้มากกว่าบุหรี่ธรรมดา ดังนั้นจึงอันตรายกว่า และการเกิดโรคต่างๆ ก็ไม่ได้ต่างกัน ทั้งโรคหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และหลอดลมอักเสบ ทั้งนี้ หากใครสูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา จะมีความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจมากขึ้น และก่อโรคมะเร็งช่องปากได้เหมือนกัน อีกทั้งพบว่า บุหรี่ไฟฟ้าก่อให้เกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและหลอดลมอักเสบสูงกว่าบุหรี่ธรรมดา 1.8 เท่า

ศ.สแตนตัน กล่าวว่า มีการเก็บข้อมูลในวัยรุ่นอเมริกันพบว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้การสูบบุหรี่ธรรมดาลดลง แต่กลับทำให้เพิ่มขึ้น และควบคุมการบริโภคยาสูบได้ยากขึ้น ทั้งนี้ ผลจากการแพร่หลายของบุหรี่ไฟฟ้า พบว่าทำให้ผู้ใหญ่หยุดบุหรี่ได้ 1 คน แต่กลับมีวัยรุ่นติดบุหรี่ไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น 80 คน เพราะคนที่ติดอยู่แล้วเลิกไม่ได้ แต่มีคนกลุ่มใหม่เข้ามา ทั้งยังทำให้คนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ธรรมดา เมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วก็หันเข้ามาสูบบุหรี่ธรรมดาอีก ดังนั้น รัฐบาลไทยควรให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และควรให้ความรู้ประชาชนเพิ่มเติม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image