สธ.รณรงค์ห่างไกล ‘เอชไอวี’ กระตุ้นคนไทยตรวจฟรีปีละ 2 ครั้ง

วันที่ 30 มิถุนายน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันรณรงค์ตรวจเอชไอวี (Voluntary Counselling Testing Day: VCT Day) โดยกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Know Your Status: เอชไอวี ตรวจฟรี ตรวจเร็ว เอชไอวี รักษาเร็ว รักษาฟรี” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักการรู้สถานะการติดเชื้อของตนเองได้เร็วขึ้น พร้อมที่จะดูแลสุขภาพและวางแผนการดูแลชีวิตต่อไป

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากการคาดประมาณผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทย โดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ Spectrum-AEM คาดว่าในปี 2561 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 6,400 คน เฉลี่ยวันละ 17 คน ผู้เสียชีวิตเนื่องมาจากเอดส์ 18,000 คน เฉลี่ยวันละ 49 คน และมีผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตอยู่ประมาณ 480,000 คน ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในปีเดียวกัน พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตอยู่ได้รับการวินิจฉัย หรือรู้สถานะว่าตนเองติดเชื้อแล้ว 451,384 คน ดังนั้นคาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีอีกประมาณ 28,000 คน ที่ยังไม่รู้สถานะการติดเชื้อ และยังไม่ได้รับการรักษา ที่สำคัญคือสามารถส่งถ่ายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว

“สำหรับกิจกรรมรณรงค์ตรวจเอชไอวีในปีนี้ ประกอบด้วย 2 ประเด็น คือ 1.เอชไอวี ตรวจฟรี ตรวจเร็ว โดยให้คนไทยทุกคนที่มีบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก สามารถตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ฟรี ปีละ 2 ครั้ง ทุกโรงพยาบาลที่ให้บริการภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้รวดเร็ว และแม่นยำ และควรตรวจหาเชื้อเอชไอวีหลังจากมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่สวมถุงยางอนามัยหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ประมาณ 1 เดือน เมื่อทราบผลว่าไม่ติดเชื้อเอชไอวี จะได้รับการปรึกษาเรื่องการป้องกัน การติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ต่อไป หากพบการติดเชื้อเอชไอวี จะได้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว” นพ.สุวรรณชัย กล่าวและว่า 2.เอชไอวี รักษาเร็ว รักษาฟรี สำหรับการรักษาจะใช้ “ยาต้านไวรัส” หากผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้เริ่มกินยาเร็ว จะทำให้ไม่มีอาการป่วย ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี รวมถึงหากกินยาต้านไวรัสต่อเนื่อง จนสามารถกดไวรัสจะลดโอกาสถ่ายทอดเชื้อไปสู่คู่นอนและผู้อื่นได้ แต่หากเข้ารับการรักษาล่าช้า จะเริ่มป่วยและมีอาการของโรคแทรกซ้อนตามมา ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันต่ำเกิดโรคเรื้อรังได้ง่าย แล้วเชื้อเอชไอวีในร่างกายจะเพิ่มขึ้น จนถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีไปสู่คู่และผู้อื่นได้ ผู้มีเชื้อเอชไอวี สามารถเข้ารับบริการรักษาด้วยยาต้านไวรัสได้ฟรีทุกสิทธิ ผู้มีสิทธิประกันสุขภาพ (บัตรทอง) และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ สามารถรักษาฟรี ทุกโรงพยาบาลภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั่วประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลที่ระบุตามบัตร ส่วนสิทธิประกันสังคม สามารถรักษาฟรีในโรงพยาบาลที่ระบุตามสิทธิ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า การทราบสถานะของตนเองในเรื่องการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ทุกคนมีสิทธิที่ตรวจโดยไม่ต้องเขินอาย ซึ่ง สธ.เร่งรัดการดำเนินงานป้องกันและดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน เพื่อยุติปัญหาเอดส์ให้ได้ภายใน 11 ปี หรือปี 2573 เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดจำนวนผู้เสียชีวิต และลดการรังเกียจตีตราเรื่องเอดส์ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเรื่องเอชไอวี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 สายด่วน สปสช. 1330 สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 รวมทั้งขอเชิญร่วมกิจกรรมรณรงค์ตรวจเอชไอวีได้ทาง Facebook fanpage สอวพ. ตลอดทั้งเดือนกรกฎาคมนี้

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image